องค์ความรู้เพื่อการพัฒนาพื้นที่สูงอย่างยั่งยืน - HKM

ยูโคมีส

ชื่อสามัญ  Eucomis, Pineapple Lily

ชื่อวิทยาศาสตร์    Eucomis sp.

ยูโคมีส เป็นไม้ดอกประเภทหัวที่มีศักยภาพในการผลิตเป็นไม้ตัดดอก และทำเป็นไม้กระถาง ด้วยมีอายุการใช้งานนาน ที่สำคัญสามารถปลูกได้ในพื้นที่ระดับน้ำทะเลตั้งแต่ 300-1,000 เมตร และเป็นพืชที่สามารถบังคับการออกดอกโดยนำหัวพันธุ์เข้าห้องเย็นอุณหภูมิ 2 องศาเซลเซียส นาน 3-4 เดือน

สภาพแวดล้อมที่เหมาะสม

ยูโคมีสเป็นพืชที่ขึ้นได้ดีในอุณหภูมิไม่ต่ำมากนัก ชอบแสงรำไรประมาณ 50 เปอร์เซ็นต์ชอบดินที่มีอินทรียวัตถุสูง โปร่ง ระบายน้ำได้ดี

การขยายพันธุ์

วิธีการขยายพันธุ์

ยูโคมีสสามารถขยายพันธุ์ได้หลายวิธี

1. การเพาะเมล็ด

2. การผ่าหัวพันธุ์

3. การปลูกเลี้ยงหัวเล็ก

4. การเพาะเนื้อเยื่อ

การเพาะเมล็ด

เพาะเมล็ดในวัสดุเพาะ โดยใช้ทราย : ถ่านแกลบ อัตรา 1 : 2 ส่วน ใช้เวลาประมาณ 1 เดือน เมล็ดก็จะเริ่มงอก หลังจากนั้นอีก 2 เดือน สามารถนำต้นกล้ามาปลูกอนุบาลในถุงขนาด 3?5 นิ้ว หรือกระถางขนาด 4 นิ้ว โดยใช้วัสดุปลูกที่ประกอบด้วย ขุยมะพร้าว : แกลบดิน : ปุ๋ยหมัก : ทราย อัตราส่วน 4 : 4 : 1 : 1 ปลูกเลี้ยงดูแลรักษาทั่วไป เพื่อให้ได้หัวพันธุ์มีขนาดใหญ่โดยมีเส้นผ่าศูนย์กลางของหัวพันธุ์ 5-7 นิ้ว โดยใช้ระยะเวลาตั้งแต่เพาะเมล็ดถึงหัวพันธุ์ที่ให้ดอกใช้เวลา 3 ปี

การผ่าหัว

การขยายพันธุ์โดยการผ่าหัวพันธุ์ที่ให้ดอกแล้วมาผ่าเป็นชิ้นๆ กว้างประมาณ 1 เซนติเมตร นำไปปักชำโดยใช้แกลบดำผสมทราย อัตราส่วน 2 : 1 เป็นวัสดุปักชำ ใช้เวลา 3 เดือน ก็จะสามารถนำต้นไปปลูกเลี้ยงได้ โดยใช้เวลาตั้งแต่ปักชำถึงหัวพันธุ์ที่ให้ดอกประมาณ 2 ปี 6 เดือน

การเพาะลี้ยงเนื้อเยื่อ

ต้นกล้าที่ได้จากการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ จะใช้เวลาตั้งแต่เริ่มการปลูกเลี้ยงจนได้หัวที่สามารถให้ดอกได้ใช้เวลาประมาณ 2 ปี 6 เดือน

การปลูกจากหัวเล็ก

ลักษณะหัวพันธุ์ของยูโคมีสจะเหมือนกับหัวพันธุ์ว่านสี่ทิศ หัวที่สามารถให้ดอกได้จะเกิดหัวเล็กๆ ตามข้างของหัวใหญ่ ซึ่งสามารถนำมาปลูกเลี้ยงให้ใหญ่ขึ้น และจะสามารถให้ดอกได้โดยใช้เวลาปลูกเลี้ยง 2 ปี

ช่วงระยะเวลาที่ใช้ขยายพันธุ์ สามารถขยายพันธุ์ได้ตลอดทั้งปี

การเตรียมแปลงปลูกและวิธีการปลูก 

1. การเตรียมแปลง (เหมาะสำหรับผลิตหัวพันธุ์)

2. ไถพรวนดิน ตาก ปรับสภาพดิน โดยใช้ปูนขาว

3. ใส่วัสดุปลูก เช่น ปุ๋ยหมัก มูลสัตว์ และ แกลบ

เทคนิควิธีการปลูก

หลังจากที่ได้หัวพันธุ์ที่มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 5-7 เซนติเมตร ให้นำหัวพันธุ์เข้าห้องเย็นที่อุณหภูมิ 2 องศาเซลเซียส นาน 4 เดือน แล้วค่อยนำมาปลูกโดยปลูกในถุงหรือกระถาง ใช้วัสดุปลูก คือ ขุยมะพร้าว : แกลบดินที่สลายตัวแล้ว : ปุ๋ยหมัก : ทรายหยาบ อัตราส่วน 4 : 4 : 1 : 1 ภายใต้โรงเรือนหลังคาพลาสติกที่มีการพรางแสง 50 เปอร์เซ็นต์ ใช้ปุ๋ยสูตรเสมอช่วงเจริญเติบโต ช่วงเริ่มให้ดอกให้ปุ๋ยฟอสฟอรัส และโปรแตสเซียมสูงเล็กน้อย

3.2.2 หลังจากปลูกได้ 80-90 วันสามารถตัดดอกได้

การดูแลรักษา 

การจัดการด้านความเข้มของแสง ให้ปลูกภายใต้โรงเรือนที่มีซาแลนพรางแสง 50 เปอร์เซ็นต์ ไม้ดอกชนิดนี้สามารถปลูกได้ตลอดทั้งปี สำหรับโรคและแมลงที่สำคัญ คือ 

โรคเน่า เกิดโรคตรงบริเวณโคนกาบใบ อาการเป็นเมือกใส มีกลิ่นเหม็นเกิดจากเชื้อแบคทีเรีย สารเคมีที่ใช้ป้องกันแคงเกอร์เอ็กซ์ฉีดพ่น 1 ครั้งต่ออาทิตย์ ถ้าอาการไม่ดีขึ้นราดด้วยเทอร์ราคลอซุปเปอร์เอ็กซ์

แมลง ที่พบจะเป็นหนอน และหอย จัดการโดยใช้ยาฆ่าแมลงและใช้เหยื่อพิษกำจัดหอย

การเก็บเกี่ยว 

ระยะเก็บเกี่ยว 

เมื่อดอกย่อยบาน 50 เปอร์เซ็นต์ขึ้นไปใช้มีดคมๆ ชุบแอลกอฮอล์ 75 เปอร์เซ็นต์ ตัดก้านดอกชิดโคน ล้างเมือกที่บริเวณรอยตัดออก แช้น้ำเปล่าทันที ควรเก็บในตอนเช้าหรือเย็น และเก็บรักษาก่อนการขนส่งในที่ที่อากาศเย็น


เอกสารอ้างอิง :

มูลนิธิโครงการหลวงและสถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง(องค์การมหาชน). 2549. คู่มือการผลิตไม้ตัดดอกและไม้ตัดใบ. มูลนิธิโครงการหลวง. เชียงใหม่. 375 หน้า.