องค์ความรู้เพื่อการพัฒนาพื้นที่สูงอย่างยั่งยืน - HKM

รู้จัก “ความหลากหลายของพันธุ์กัญชง”

ทำไมต้องรู้จัก “ความหลากหลายของพันธุ์กัญชง”?

การเริ่มต้นปลูกหรือทำธุรกิจกัญชงไม่ใช่เพียงแค่มีที่ดินและต้นกล้า แต่ต้องเริ่มจาก “พันธุ์” ที่เหมาะสม เพราะพันธุ์แต่ละชนิดให้ผลลัพธ์ต่างกัน ดังนั้น ความรู้เรื่องพันธุ์จึงเป็นกุญแจสำคัญที่กำหนดความสำเร็จในเชิงพาณิชย์ตั้งแต่ต้นทาง

พันธุ์กัญชงที่มีอยู่ในโลกมีหลากหลายมาก ทั้งในแง่ของ ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ ปริมาณสาร CBD และ THC ความสูง อายุการเก็บเกี่ยว และความทนทานต่อสภาพแวดล้อม จึงทำให้การเลือกพันธุ์เป็นเรื่องสำคัญยิ่ง จำเป็นต้องพิจารณาเลือกใช้พันธุ์กัญชงให้ตรงกับเป้าหมายการผลิต วิธีการผลิต และสภาพแวดล้อมที่ใช้ผลิตด้วย

พันธุ์กัญชงในท้องตลาด มักกล่าวถึง Sativa vs Indica ซึ่งเป็นความสับสนที่น่าจะต้องทำความเข้าใจใหม่ แม้ว่าในอดีตจะมีการแบ่งกัญชงและกัญชาออกเป็นกลุ่ม Sativa และ Indica ตามลักษณะภายนอก เช่น

  • Sativa : ต้นสูง ใบเรียวยาว มักโตในเขตร้อน
  • Indica : ต้นเตี้ย ใบกว้างกว่า โตเร็วในเขตหนาว

แต่จากงานวิจัยล่าสุด พบว่าการแบ่งตามลักษณะนี้ ไม่แม่นยำอีกต่อไป เพราะกัญชงและกัญชา Sativa และ Indica สามารถผสมข้ามพันธุ์ (hybridization) ได้อย่างดี ทำให้ลักษณะทางพฤกษศาสตร์และสารสำคัญไม่จำกัดอยู่ใน Sativa หรือ Indica อย่างชัดเจนแบบในอดีตอีกแล้ว ดังนั้นสิ่งที่เกษตรกรหรือผู้ประกอบการ ควรพิจารณา มากกว่าชื่อหรือฉลากว่าเป็น “Sativa” หรือ “Indica” ได้แก่

✓ ลักษณะภายนอก (phenotypes) เช่น ความสูง การให้ผลผลิตเมล็ด การให้ผลผลิตเส้นใย

✓ สารสำคัญ เช่น CBD THC Terpene Flavonoid

✓ คุณสมบัติการเจริญเติบโต

✓ ความเหมาะสมกับสภาพแวดล้อมและภูมิอากาศในแต่ละท้องถิ่น

เลือกใช้พันธุ์กัญชงพิจารณาจากอะไรบ้าง?

สายพันธุ์กัญชงทั่วโลกและในประเทศไทย พันธุ์กัญชงหลัก ๆ แบ่งได้เป็น 3 กลุ่มใหญ่:

1) กลุ่มพันธุ์เส้นใย (Fiber Type) – เน้นลำต้นสูง เส้นใยยาว แข็งแรง ใช้ทำสิ่งทอ

สายพันธุ์ที่นิยมทั่วโลก :

  • Futura 75 (ฝรั่งเศส)
  • Bialobrzeskie (โปแลนด์)
  • Yunma 1-5 (จีน)
  • Fedora 17 (ฝรั่งเศส)

2) กลุ่มพันธุ์เมล็ด (Grain Type) – ให้ผลผลิตเมล็ดสูง ใช้ผลิตน้ำมันและโปรตีน

สายพันธุ์ที่นิยมทั่วโลก

  • Felina 32 (ยุโรป)
  • Finola (ฟินแลนด์) : เติบโตเร็ว เหมาะกับเขตหนาว
  • X-59 (Hemp Nut) (แคนาดา)
  • USO 31
  • Henola (โปแลนด์)
  • Futura 83

3) กลุ่มพันธุ์ CBD สูง (CBD Type)

  • Charlotte's Web (สหรัฐฯ)
  • ACDC (สหรัฐฯ)
  • Cherry Wine
  •  Suver Haze
  •  T1 Trump
  •  Baox



สรุปจำนวนสายพันธุ์ที่มีใช้ทั่วโลก 

✓ กลุ่มพันธุ์เส้นใย (Fiber Type) – 40–50 สายพันธุ์

✓ กลุ่มพันธุ์เมล็ด (Grain Type) – 30–40 สายพันธุ์

✓ กลุ่มพันธุ์ CBD สูง – (CBD 30+ สายพันธุ์ (ยังเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ)

หมายเหตุ: ตัวเลขนี้เป็นค่าประมาณตามฐานข้อมูลพันธุ์กัญชงจาก EU Plant Variety Database และแหล่งวิจัยจากแคนาดาและสหรัฐอเมริกา ซึ่งมีการรับรองพันธุ์เพิ่มขึ้นทุกปี

โดยส่วนใหญ่แล้วกัญชงกลุ่มพันธุ์ เส้นใย (Fiber Type) และกลุ่มพันธุ์เมล็ด (Grain Type) มักเป็นพันธุ์เดียวกัน แต่จะแตกต่างกันในวิธีการปลูก ระยะเวลาปลูก การดูแลบำรุงรักษา เช่น เช่น Futura 75 (ฝรั่งเศส), Bialobrzeskie (โปแลนด์), Yunma 1-5 (จีน), Fedora 17 (ฝรั่งเศส), Felina 32 (ยุโรป), X-59 (Hemp Nut) (แคนาดา)

สำหรับประเทศไทยมีพันธุ์กัญชงที่ขึ้นทะเบียนพันธุ์ต่อกรมวิชาการเกษตรในปัจจุบัน (มิ.ย.2568) มี 46 พันธุ์

✓ กลุ่มพันธุ์เส้นใย (Fiber Type) และ กลุ่มพันธุ์เมล็ด (Grain Type) – 9 พันธุ์

✓ กลุ่มพันธุ์เมล็ด (Grain Type) – 2 พันธุ์

✓ กลุ่มพันธุ์ CBD สูง – 40 พันธุ์

ปัจจัยที่ควรพิจารณาในการเลือกพันธุ์กัญชง ก่อนเลือกพันธุ์ ควรพิจารณาอย่างรอบคอบ โดยเฉพาะในเชิงธุรกิจ:

·     จุดประสงค์ทางธุรกิจ: ต้องการผลิตเส้นใย เมล็ด หรือสาร CBD

·     พื้นที่ปลูก: ภูมิอากาศ ดิน และฤดูกาล

·     ปริมาณ THC/CBD: ต้องผ่านเกณฑ์กฎหมาย (THC ไม่เกิน 1.0% กรณีประเทศไทย)

·     ต้นทุนและผลตอบแทน: ความคุ้มค่าของการลงทุนในพันธุ์แต่ละชนิด

·     ความต้องการของตลาด: ผลิตเพื่อใคร ? ตลาดไทยหรือส่งออก

·     ความน่าเชื่อถือของแหล่งพันธุ์: ต้องเป็นพันธุ์ที่มีการรับรองทางกฎหมาย และมีประวัติการใช้งานจริง

·     ก่อนเลือกพันธุ์ ควรพิจารณาอย่างรอบคอบ โดยเฉพาะในเชิงธุรกิจ

 สรุป

การเข้าใจความหลากหลายของพันธุ์กัญชง จะช่วยให้เกษตรกรและผู้ประกอบการเลือกใช้พันธุ์ที่เหมาะสมที่สุดกับวัตถุประสงค์ ไม่ว่าจะเพื่อเส้นใย เมล็ด หรือสาร CBD และควรให้ความสำคัญกับข้อมูลวิทยาศาสตร์ มากกว่าชื่อเรียกอย่าง “Sativa” หรือ “Indica” ที่อาจทำให้เกิดความเข้าใจผิด ซึ่งสิ่งสำคัญที่ควรพิจารณาคือเรื่องของการปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมที่จะนำมาเพาะปลูก ให้ได้ผลผลิตสูง คุ้มค่ากับการลงทุน

เอกสารอ้างอิง:

สำนักคุ้มครองพันธุ์พืช. 2568. รายชื่อพันธุ์พืชที่ได้รับหนังสือรับรองพันธุ์พืชขึ้นทะเบียน (ร.พ. 2). https://www.doa.go.th/pvp/?page_id=509.

European Union Intellectual Property Office. "EU Plant Variety Database." European Union Intellectual Property Office. 2025. https://euipo.europa.eu/plantvarieties.



เขียน/ เรียบเรียงเรื่องโดย : ดร.สริตา ปิ่นมณี และ เสฎฐวุฒิ วงค์น้อย

ออกแบบและเผยแพร่สื่อออนไลน์โดย เนตรชนก สายคง สำนักยุทธศาสตร์และแผน

A PHP Error was encountered

Severity: Core Warning

Message: Module 'ldap' already loaded

Filename: Unknown

Line Number: 0

Backtrace: