พลิกชีวิตจากป่าข้าวโพด...สู่เกษตรกรผู้ปลูกผักโรงเรือนที่มีรายได้มั่นคง

นายสุข เดชว้อง ผู้นำเกษตรกร โครงการพัฒนาพื้นที่สูงแบบโครงการหลวงน้ำแขว่ง จังหวัดน่าน

ในอดีต เคยทำงานอยู่ในกรุงเทพฯ แต่เมื่อถึงจุดหนึ่งที่ต้องตัดสินใจกลับบ้านเกิดเพื่อมาทำเกษตรเต็มตัว ด้วยความหวังว่าจะสร้างอาชีพที่มั่นคงและได้อยู่ใกล้ครอบครัว โดยเริ่มต้นจากการปลูกข้าวโพดบนพื้นที่กว่า 60 ไร่

ซึ่งถือเป็นพื้นที่กว้างใหญ่สุดลูกหูลูกตา แต่ปัญหาคือการปลูกข้าวโพดต้องลงทุนสูงมาก ทั้งค่าปุ๋ย ค่ายา และแรงงาน ในขณะที่รายได้เฉลี่ยต่อปีอยู่ที่เพียง 200,000 บาท (รายได้เฉลี่ยต่อไร่ ประมาณ 3,000 บาท)

ซึ่งไม่เพียงพอกับค่าใช้จ่าย และทำให้ความคาดหวังในการมีชีวิตที่ดีขึ้นนั้นห่างไกลออกไปมากขึ้นทุกปี

ต่อมาในปี 2562 เป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงอีกครั้ง เมื่อมีโอกาสเข้าถึงความรู้ ทำให้กล้าที่จะปรับเปลี่ยนทั้งชนิดพืช และวิธีการปลูกพืชจากไร่ข้าวโพดมาเป็นการปลูกพืชผักในโรงเรือน ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายแต่เมื่อตัวอย่างที่ดีที่ทำให้เห็นว่ามีความเป็นไปได้ จึงยอมเสี่ยงลองทำสิ่งใหม่และจึงได้ค้นพบว่าผักในโรงเรือนสามารถตอบโจทย์ได้ทั้งรายได้และต้นทุนการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ไม่เพียงแต่ลดภาระต้นทุนการผลิตเท่านั้น แต่ยังเพิ่มรายได้อย่างเห็นได้ชัด ผลผลิตชุดแรกคือ"แตงกวาญี่ปุ่น" ที่สามารถขายได้ถึง 120,000 บาท ต่อ 1 โรงเรือน/ปี  มะเขือเทศเชอรี่ ขายได้ถึง 190,000 บาท ต่อ 1 โรงเรือน/ปี ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นเป็นสิ่งที่เกิดจากการเรียนรู้ตลอดเวลา ความพร้อมในการปรับตัว

วันนี้ กำไรชีวิตที่นอกเหนือจากรายได้ในการเลี้ยงดูครอบครัวแล้ว

สิ่งสำคัญคือการมีเวลามากขึ้น สามารถใช้เวลาเหล่านั้นไปทำกิจกรรมอื่น และยังมีความภาคภูมิใจในการเป็นวิทยากรแบ่งปันองค์ความรู้ให้กับเกษตรกรรายอื่นในจังหวัดน่าน รวมถึงหน่วยงานต่างๆ ที่สนใจมาเรียนรู้เรื่องการปลูกผักในโรงเรือนอีกด้วย