องค์ความรู้เพื่อการพัฒนาพื้นที่สูงอย่างยั่งยืน - HKM

โปรแกรมการจัดการศัตรูพืชในการปลูกเสาวรสหวานในพื้นที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน

การเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ หรือ Climate change มีผลต่อการปลูกพืชเศรษฐกิจเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะการระบาดของศัตรูพืช ส่งผลต่อความเสียหายต่อผลผลิต ทำให้เกษตรกรสูญเสียรายได้เป็นจำนวนมาก เช่น เกษตรกรในพื้นที่โครงการพัฒนาพื้นที่สูงแบบโครงการหลวงสบเมย และแม่สามแลบ อ.สบเมย จ.แม่ฮ่องสอน ได้รับการส่งเสริมการปลูกเสาวรสหวานพันธุ์ไทนุงตั้งแต่ปี 2557 โดยการส่งเสริมเสาวรสในช่วงแรก เสาวรสให้ผลผลิตและตอบแทนสูง เป็นที่ต้องการของตลาดมาก แต่ในปัจจุบันเกษตรกรพบปัญหาเรื่องโรคและแมลงศัตรูพืชมีการระบาดมากขึ้น โดยเฉพาะโรคไวรัส โรคผลเน่าซึ่งเกิดจากเชื้อรา Collectotrichum sp. และเชื้อรา Phytopthora sp. ทำให้ผลผลิตของเกษตรกรร่วงหล่น สูญเสียผลผลิตก่อนเก็บเกี่ยวมากกว่าร้อยละ 50 และพบมากในช่วงเดือนสิงหาคม-กันยายน เนื่องจากช่วงเวลาดังกล่าวมีสภาพอากาศอยู่ในช่วงฤดูฝน อุณภูมิต่ำ มีฝนตกสลับกับอากาศร้อน (เฉลี่ย 20.40-28.55 C ความชื้นสัมพัทธ์ 79.15-88.75 %RH) ซึ่งเป็นช่วงที่มีผลผลิตจำนวนมาก และเกิดการระบาดเป็นประจำทุกปี นอกจากนี้ยังพบศัตรูพืชซึ่งสอดคล้องกับระยะการเจริญเติบโตของพืชได้แก่ 1) ช่วงการย้ายปลูก (พฤษภาคม) พบโรคโคนเน่ารากเน่า ตักแตน และจิ้งหรีดกัดกินต้นกล้า 2) ช่วงออกดอก (มิถุนายน) พบเพลี้ยไฟ ไรศัตรูพืช และเพลี้ยหอย 3) ช่วงที่เสาวรสเจริญเติบโตและออกดอก (กรกฎาคม) พบกลุ่มโรคทางใบ เช่น ใบจุด ผลเน่าจากเชื้อราออลเทอนาเรียเกิดที่ใบ และ 4) ช่วงเจริญเติบโต ออกดอก และติดผลรุ่น 1-7 (สิงหาคม-มีนาคม) พบโรคผลเน่าจากเชื้อรา Collectotrichum sp. Fusarium sp. Alternaria sp. และเชื้อรา Phytopthora sp. และโรคแผลสะเกิดหรือสแคบ เป็นต้น

จากการสำรวจศัตรูข้างต้นทำให้เกษตรกรมีการใช้สารเคมีป้องกันกำจัดโรคเพิ่มขึ้นตามไปด้วย ดังนั้นจึงได้ศึกษา และทดสอบนำองค์ความรู้งานวิจัยเรื่องโปรแกรมการจัดการศัตรูพืชแบบผสมผสานในการปลูกเสาวรสหวาน เพื่อให้เกษตรกรได้นำไปปรับใช้ให้เหมาะสมกับบริบทพื้นที่ ใช้ชีวภัณฑ์ร่วมกับการใช้สารเคมี เพื่อให้ผลผลิตเสาวรสหวานที่ปลอดภัย โดยมีโปรแกรมหรือแผนการจัดการศัตรูพืชในการปลูกเสาวรส ดังภาพ