องค์ความรู้เพื่อการพัฒนาพื้นที่สูงอย่างยั่งยืน - HKM

คนรุ่นใหม่ คิดอย่างไรกับการเกษตรบนพื้นที่สูง

ภาพของสังคมเมืองและชนบทคือภาพตัดของความต่าง ทั้งในด้านทางเลือกในการประกอบอาชีพและการเข้าถึงสิ่งอำนวยความสะดวก เราจึงเห็นภาพของผู้คนในชนบทโยกย้ายถิ่นฐานไปทำงานในเขตเมือง อย่างไรก็ตาม ยังมีคนรุ่นใหม่บนพื้นที่สูงส่วนหนึ่งที่ตัดสินใจทำเกษตรในชุมชนบ้านเกิด การรวบรวมความคิดเห็นของคนรุ่นใหม่อายุไม่เกิน 30 ปี ในโครงการพัฒนาพื้นที่สูงแบบโครงการหลวง ในอำเภอท่าสองยาง จังหวัดตาก อำเภออมก๋อยและอำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ พบแรงจูงใจที่ทำให้คนรุ่นใหม่บนพื้นที่สูงสานต่ออาชีพการเกษตร ดังนี้ (1) คนรุ่นใหม่ให้คุณค่าต่ออาชีพที่เป็นนายตัวเอง เนื่องจากมีโอกาสทำตามสิ่งที่ตัวเองฝัน มีอิสระในการกำหนดเวลาทำงาน และได้อยู่กับครอบครัว (2) การได้รับการสนับสนุนทั้งความรู้และกำลังใจจากครอบครัวในการทำเกษตร (3) ครอบครัวมีที่ดินที่เป็นต้นทุนสำคัญสำหรับทำเกษตรที่คนรุ่นใหม่สามารถสานต่อการเกษตรเดิมของครอบครัวหรือริเริ่มสิ่งใหม่ (4) การทำงานอยู่ที่บ้านเกิดทำให้คนรุ่นใหม่รู้สึก “มีตัวตน” มากกว่าการออกไปเป็นแรงงานในเขตเมือง และ (5) การได้รับคำแนะนำด้านการผลิตและการตลาดจาก สวพส. และหน่วยงานเครือข่าย  

วันนี้พามารู้จักคนรุ่นใหม่ที่บ้านหัวแม่เย็น ในพื้นที่ดอยสามหมื่น ในโครงการพัฒนาพื้นที่สูงแบบโครงการหลวงบ้านป่าเกี๊ยะใหม่ ตำบลเมืองคอง อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ นายวิริทธิ์พล โชคภัทรชัย หรือ เล อายุ 28 ปี ที่ได้ตัดสินใจกลับมาประกอบอาชีพปลูกกาแฟภายหลังจบการศึกษาระดับชั้น ปวส. สาขาไฟฟ้า เลเป็นผู้ที่มีการเรียนรู้อย่างต่อเนื่องครอบคลุมเรื่องเกี่ยวกับกาแฟเกือบทุกมิติ ทั้งในด้านแหล่งเพาะปลูกที่มีสภาพแวดล้อมที่ดี เลกล่าวว่า...

“กาแฟไม่สามารถปลูกกลางแจ้งแปลงใหญ่แบบข้าวโพดได้ แต่ต้องปลูกใต้ร่มเงาต้นไม้ ที่จะได้ทั้งผลผลิตกาแฟคุณภาพและป่าไม้รอบชุมชน”

การสร้างมูลค่าสินค้าด้วยการแปรรูปเป็นสารกาแฟและกาแฟคั่วที่สร้างรายได้มากกว่ากาแฟกะลา การต่อยอดตลาดออนไลน์ที่เข้าถึงผู้บริโภคโดยตรงจากประสบการณ์ที่เลได้เคยจำหน่ายสารกาแฟออนไลน์ครั้งแรกในระหว่างที่ศึกษาอยู่ในตัวเมืองเชียงใหม่ เพื่อช่วยเหลือพ่อที่ประสบปัญหาราคาผลผลิตกาแฟกะลาตกต่ำเมื่อ 5 ปีที่แล้ว และการศึกษาค้นคว้าหาความรู้เกี่ยวกับลักษณะพิเศษของกาแฟแต่ละสายพันธุ์อย่างจริงจัง