นา “ปากล้า”
ชุมชนบนพื้นที่สูงของไทยส่วนใหญ่ปลูกข้าวเพื่อบริโภคในครัวเรือนสร้างความมั่นคงทางอาหาร โดยทำนาได้ปีละครั้ง เพราะต้องพึ่งพาน้ำฝนเป็นหลัก วิธีการปลูกข้าวจะยึดถือภูมิปัญญาและธรรมชาติ นิยมปลูกพันธุ์ข้าวท้องถิ่น ปัจจุบันพื้นที่สูงเริ่มประสบปัญหาขาดแคลนแรงงานในภาคการเกษตรเนื่องจากการเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุมากขึ้น กลุ่มคนหนุ่มสาวนิยมไปทำงานรับจ้างในเมือง จึงส่งผลทำให้แรงงงานในการทำนาน้อยลง หากนำเทคโนโลยีการปลูกข้าวที่เหมาะสมกับสภาพพื้นที่สูงมาปรับใช้ ก็จะเป็นทางเลือกหนึ่งที่จะช่วยเพิ่มผลผลิตข้าว ประหยัดเวลา และประหยัดแรงงาน อีกทั้งอาจช่วยลดความเสียหายจากภัยธรรมชาติ เช่น ฝนแล้งหรือฝนทิ้งช่วง
นา “ปากล้า” เป็นอีกหนึ่งเทคโนโลยีที่คล้ายกับการทำนาโยน แต่ได้พัฒนาเทคนิคการเตรียมแปลงและวิธีการปลูกอย่างประณีต ซึ่งสามารถกำหนดระยะปลูกของต้นข้าวได้อย่างเป็นระเบียบ เพื่อความสะดวกในการจัดการแปลงโดยเฉพาะการกำจัดวัชพืชและกำจัดต้นพันธุ์ปน มีขั้นตอนดังนี้
1. เตรียมพื้นที่แปลงนาอย่างประณีต ทำเทือกให้สม่ำเสมอ ลดน้ำในแปลงเพื่อให้ต้นข้าวยึดติดได้ง่าย
2.เพาะเมล็ดพันธุ์ข้าวในถาดเพาะขนาด 434 หลุม จำนวน 2 เมล็ดต่อหลุม กลบด้วยดินเหนียวร่วนละเอียด รดน้ำให้ชุ่ม และนำถาดกล้าไปอนุบาล
3. ต้นกล้าข้าวอายุ 20-25 วันหลังเพาะ นำไปปลูกด้วยวิธีการปากล้า ให้เป็นแถวเป็นแนว ระยะระหว่างแถว/หลุมประมาณ 25 x 25 เซนติเมตร
4. ดูแลรักษาแปลงข้าว ร่วมกับการให้น้ำในแปลงนาด้วยวิธีนาน้ำน้อย และกำจัดต้นพันธุ์ปนในระยะแตกกอ ระยะออกรวง และระยะก่อนเก็บเกี่ยว