ศัตรูผักในช่วงแล้ง
ศัตรูผักในช่วงแล้ง
ช่วงเข้าสู่หน้าแล้ง เกษตรกรที่ปลูกผักคงต้องเตรียมรับมือกับแมลงศัตรูพืชที่จะเข้าทำลายมักพบเป็นประจำในช่วงแล้ง ได้แก่ ‘ด้วงหมัดผัก’ และ ‘เพลี้ยอ่อน’ ถือว่าเป็นศัตรูสำคัญลำดับต้นๆ
1. ด้วงหมัดผัก ด้วงหมัดกระโดด มี 2 ชนิด คือ ชนิดแถบลาย และชนิดสีน้ำเงิน ตัวที่เราเห็นจะเป็น
‘ตัวเต็มวัย’ ส่วน ‘ตัวอ่อนและดักแด้’ จะอยู่ในดิน ดังนั้นจึงต้องกำจัดทั้งตัวเต็มวัยและตัวอ่อนด้วย
· ชนิดผักที่ด้วงหมัดผักชอบจะเป็นพืชตระกูลกะหล่ำ เช่น ผักกาดหัว ผักกาดฮ่องเต้ ผักกาดกวางตุ้ง ฯลฯ
· วิธีการป้องกันกำจัดในการปลูกพืชอินทรีย์ ดังนี้
1. ไถดินตากแดดไว้อย่างน้อย 1 สัปดาห์ เพื่อทำลายตัวอ่อนและดักแด้ที่อยู่ในดิน
2. ปลูกพืชชนิดอื่นที่ไม่ใช่พืชอาหารด้วงหมัดผักสลับหมุนเวียน
3. ใช้ไส้เดือนฝอย อัตรา 4 ล้านตัวต่อพื้นที่ 20 ตารางเมตร ต่อน้ำ 20 ลิตร (1 โบโด) ฉีดพ่นหรือราดบนแปลงปลูกเมื่อผักอายุได้ 15, 30 และ 45 วัน หลังจากย้ายกล้าหรือหยอดเมล็ด และใช้เชื้อแบคทีเรียบีที (บาซิลลัส ทูริงเยนซิส) ฉัดพ่นหรือราด ทุก 7 วัน
4. ใช้กับดักกาวเหนียวสีเหลือง 60-80 กับดักต่อไร่ ทุก 2 สัปดาห์ เพื่อลดจำนวนตัวเต็มวัย (ต้องปักเอียงๆ ให้ต่ำๆ เพื่อให้ด้วงหมัดผักเข้ามาติดกับดัก!!!)
5. ใช้พืชสมุนไพร เช่น เมล็ดสะเดา (ตากแห้ง) บด โรยบริเวณโคนต้น หรือจะนำเมล็ดสะเดาบดมาแช่น้ำไว้สัก 1 คืน แล้วกรองเอาแต่น้ำ นำน้ำสกัดที่ได้มาใส่โบโดแล้วผสมน้ำธรรมดาให้เต็มโบโด นำไปฉีดพ่นที่ต้นพืช หรือใช้ยาสูบ (ยาเส้น) สัก 1 กำมือ แช่น้ำให้ท่วม (ประมาณ 1 ขันน้ำ)ทิ้งไว้ 1 คืน แล้วกรองเอาน้ำที่ได้มาผสมน้ำทำคล้ายกับกรณีเมล็ดสะเดาบดการใช้สมุนไพรบางชนิด (เช่น สะเดา ยาสูบ หางไหล ฯลฯ) ต้องระวังเพราะเมื่อนำผักไปวิเคราะห์สารตกค้าง อาจเสมือนว่ามีการใช้สารเคมี ดังนั้นจึงควรฉีดพ่นสมุนไพรก่อนเก็บเกี่ยวอย่างน้อย 7 วัน