เฟินเขากวาง
เฟินเขากวาง Polypodium polycarpon เป็นพืชที่มีการนำมาทดสอบก่อนนำมาส่งเสริมแลพพบว่าสามารถสร้างรายได้ให้แก่เกษตรกร
สภาพแวดล้อมที่เหมาะสม
กลางวันอยู่ในช่วง 19-27 องศาเซลเซียส และอุณหภูมิกลางคืนลดลงต่ำกว่าอุณหภูมิกลางวันประมาณ 4-6 องศาเซลเซียส แสงสว่างประมาณ 40 เปอร์เซ็นต์ ความชื้นในอากาศประมาณ 60-80 เปอร์เซ็นต์
การขยายพันธุ์
1) วิธีการขยายพันธุ์
โดยการเพาะสปอร์ คือ เริ่มจากการเก็บสปอร์ใต้ใบเฟิร์น โดยเลือกจากกลุ่มอับสปอร์ที่มีสีน้ำตาลอ่อนถึงสีน้ำตาลเข้ม ซึ่งแสดงว่าสปอร์มีความแก่เต็มที่ ใช้มีดตัดใบเฟินส่วนที่มีสปอร์เก็บไว้ในซองกระดาษที่ไม่ทำให้สปอร์ขนาดเล็กฟุ้งกระจาย จากนั้นเก็บไว้ในบริเวณที่ร่มและแห้งภายใน 1-2 วัน สปอร์ก็จะแตกออกหมดแล้วใช้คีมขนาดเล็กคัดเอาอับสปอร์ และส่วนของใบหรือสิ่งต่างๆออกจากสปอร์แล้วเก็บสปอร์ทั้งหมดเตรียมเพาะต่อไป
2) การแบ่งกอ
การขยายพันธุ์ด้วยการแบ่งกอจะใช้กอที่มีอายุนานประมาณ 2-4 ปี มาแบ่งแยกเพื่อปลูกใหม่ อีกครั้งหนึ่ง
การดูแลรักษา
1. การจัดการด้านความเข้มแสง
ปลูกภายใต้โรงเรือนหรือปลูกในกระถาง อยู่ในโรงเรือนที่มุงซาแรนขนาด 70 เปอร์เซ็นต์
2. การจัดการด้านอุณหภูมิ
อุณหภูมิในโรงเรือนที่มีความเหมาะสม คือ 19-27 องศาเซลเซียส ในช่วงกลางวัน
3. ปุ๋ย
ควรรดปุ๋ยน้ำพร้อมกับการรดน้ำต้นพืชสัปดาห์ละ 2 ครั้ง จนกระทั่งเริ่มตัดดอกโดยสูตรผสม ดังนี้
ปุ๋ย ถัง A (กิโลกรัม) ถัง B (กิโลกรัม)
โมโนแอมโมโนฟอสเฟต 11-60-0 8 -
แคลเซียมไนเตรท 15-0-0 - 20
โปรแตสเซียมไนเตรท 13-0-46 10 10
แมกนีเซียมซัลเฟต MgSo4.7H2O 4 -
ยูนิเลท 0.5 -
ปุ๋ยน้ำเข้มข้น(Stock) ตวงปุ๋ยน้ำสูตรA และ B อย่างละ 1 ลิตร ผสมน้ำสะอาดจำนวน 200 ลิตร คนให้เข้ากันก่อนรดน้ำพืชสามารถรดต้นพืชได้ 100-150 ตารางเมตร ควรให้ปุ๋ยเสริม เช่น ยูเรีย ละลายน้ำในระยะแรกของการเจริษเติบโตหรือปุ๋ยเกร็ดไบโฟลาน ปุ๋ยปลาเสริมเป็นบางครั้งแล้วแต่ความเหมาะสม
โรคและศัตรูพืช
ใบเป็นจุดและโรคไหม้
สาเหตุ :เชื้อรา Rhizoctonia sp.
อาการ :ใบเป็นจุดขนาดใหญ่ ขอบแผลสีน้ำตาลเข้ม กลางแผลซีด ปลายใบไหม้
วิธีป้องกัน
-ตัดแต่งส่วนที่เป็นโรคออกจากแปลงปลูกเผาทำลาย
-ฉีดพ่นสารเคมีบีโนมิล (เบนเลท โอดี, โฟโนมิลหรือฟันดาโซล) สลับกับแคปแทน(ออโธไซด์) หรือไตโคลเฟส-เมทธิล (ไรโซเล็กซ์) ทุก 5-7 วัน จนกว่าไม่พบการระบาด
แมลงด้วงปีกแข็ง
ลักษณะตัวเล็กมีฟันแหลมคม ชอบกัดกินยอดใบอ่อนเป็นอาหาร ทำให้ใบมีตำหนิหรือเสียหายได้
วิธีป้องกัน
- จับตัวทั้งเป็นมาทำลายซึ่งเป็นวิธีที่ใช้ได้ผลมาก
- ใช้ศัตรูธรรมชาติทำลาย เช่น นก
- ใช้สารเคมีกำจัดแมลงฉีดพ่น
การให้น้ำ
ควรให้น้ำอย่างสม่ำเสมอถ้าดินยังมีความชื้นให้ลดความถี่ของการให้น้ำลงโดยการทดสอบบีบเนื้อดิน การปลูกภายในโรงเรือนซาแรนดำควรระมัดระวังเรื่องน้ำขัง โดยอาจต้องทำการยกร่องระบายน้ำเนื่องจากความชื้นที่มากเกินไปทำให้ต้นเน่าได้
การเก็บเกี่ยว
1) ระยะเก็บเกี่ยว
ใบต้องมีความแก่พอเหมาะสม และมีความสดไม่มีโรคและแมลงทำลายใบตรงคดงอได้ไม่เกิน 30 องศา
2) วิธีการเก็บเกี่ยว
ใช้กรรไกรตัดใบที่แก่และสดมีสีเขียว
3) การวัดมาตรฐาน
เกรด 1 ความยาวของใบ 70-80 เซนติเมตร
ความกว้างของใบ 20-30 เซนติเมตร
เกรด 2 ความยาวของใบ 60-70 เซนติเมตร
ความกว้างของใบ 15-20 เซนติเมตร
เกรด U ความยาวของใบ 50-60 เซนติเมตร
ความกว้างของใบ 15-20 เซนติเมตร
4) ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการเก็บเกี่ยว
ควรตัดตอนเช้าหรือตอนเย็น
การจัดการหลังการเก็บเกี่ยว
- ควรแช่น้ำยารักษาอายุการใช้ของดอกไม้
- ในระหว่างการเก็บรักษา หรือการขนส่ง ควรอยู่ในที่ร่ม แสงแดดส่องไม่ถึง