องค์ความรู้เพื่อการพัฒนาพื้นที่สูงอย่างยั่งยืน - HKM

สแตติส เพอริซิอาย

สะแตติส เพอริซิอาย (Limonium spp.) เป็นไม้ตัดดอกที่มีสีสันที่สวย มีจุดเด่นเฉพาะตัว คือสามารถตัดขายเป็นดอกไม้สด และถ้าหากว่าปล่อยไว้ให้ดอกบานเกินไปก็ยังสามารถตัดขายทำเป็นดอกไม้แห้งได้ โดยที่สีสันของดอกคงเดิม ที่สำคัญไม้ดอกชนิดนี้เป็นที่ต้องการของตลาดและผู้บริโภค

สภาพแวดล้อมที่เหมาะสม

สะแตติส เพอริซิอาย สามารถออกดอกและเจริญเติบโตได้ทุกสภาพแวดล้อม ทั้งร้อน หนาว ฝน แต่ต้องมีแสงแดดในแต่ลวันอย่างเพียงพอเพื่อการบานของดอก

การขยายพันธุ์

การเพาะเมล็ด การเพาะเมล็ดมีขั้นตอน ดังนี้

- เลือกใช้เมล็ดที่สมบูรณ์

- เตรียมวัสดุเพาะ เช่า พีท

- นำวัสดุเพาะใส่ตระกร้า รดน้ำให้ชุ่ม หว่านเมล็ด รักษาความชื้นในตระกร้าอยู่เสมอ

- ย้ายต้นกล้าออกมาใส่ถาดหลุม ดูแลการเจริญเติบโต

- ย้ายใส่ถุงดำขนาด 4 นิ้ว

- เมื่อย้ายต้นกล้าใส่ถุงดำ 4 นิ้ว แล้วนำไปรักษาไว้ภายใต้ซาแลน 50 เปอร์เซ็นต์ ในระยะแรก 2 อาทิตย์ หลังจากนั้นนำซาแลนออกเพื่อให้ต้นได้รับแสงอย่างเพียงพอรดน้ำให้ปุ๋ยอย่าสม่ำเสมอ

การขยายพันธุ์โดยวิธีเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ

ขั้นตอนการดำเนินงาน

- ระยะเวลาที่เหมาะสม นิยมเพาะเมล็ดในช่วงฤดูฝนประมาณเดือนสิงหาคม

- การอนุบาล การดูแลรักษาต้นกล้า เดือนกันยายน – ตุลาคม

- เริ่มปลูกปลายเดือนตุลาคม

- รักษาต้นกล้าในแปลงให้เจริญเติบโตในเดือนพฤศจิกายน – ธันวาคม

- ผลผลิตเริ่มออกสู่ตลาดในเดินมกราคม ช่วงฆฤดูหนาวไปอย่างต่อเนื่อง

การเตรียมแปลงปลูกและวิธีการปลูก

การเตรียมดิน

1. นำตัวอย่างดินส่งตรวจหาค่าความเป็นกรด – ด่าง

2. ทำการไถพรวนดิน ตากแดดทิ้งไว้ 1 อาทิตย์

3. ผสมดินด้วย ปุ๋ยคอก ปุ๋ยหมัก และแกลบ

4. ไถพรวนดินที่ตากไว้ให้ร่วนซุย และเพื่อให้วัสดุปลูกคลุกเคล้ากันให้ทั่ว

5. เตรียมแปลง ยกร่อง ขึ้นแปลงให้เหมาะสมกับโรงเรือนนั้นๆ ความกว้างแปลง 1 เมตร

วิธีการปลูก

1. ใช้ระยะ 50x50 เซนติเมตร ปลูกสลับฟันปลา

2. วางท่อน้ำหยดในแปลงเพื่อให้ปุ๋ยน้ำ

การดูแลรักษา

การจัดการด้านความเข้าแสง

1. ในช่วงการปลูกในระยะแรก 1-2 อาทิตย์ ควรมีการพรารงแสงด้วยซาแลน 50 เปอร์เซ็นต์ เพื่อให้ต้นปรับสภาพสิ่งแวดล้อมของแสงในพื้นที่

2. เมื่อต้นปรับสภาพได้แล้ว ให้เอาซาแลนออก

3. ในช่วงออกดอกของสะแตติส เพอริซิอาย เป็นช่วงที่มความต้องการความเข้มแสงมากเพราะจะทำให้ดอกบานได้อย่างสม่ำเสมอ

การจัดการด้านอุณหภูมิ

ดอกสะแตติส เพอริซิอาย สามารถขึ้นได้ ออกดอกได้ทุกๆ อุณหภูมิไม่ว่าจะเป็นในช่วงฤดูหนาวหรือฤดุร้อน แต่ในช่วงฤดูฝนถึงแม้ว่าดอกจาสามารถออกดอกได้แต่ไม่ค่อยมีความเข้มแสงเพียงพอที่จะทำให้ดอกบานได้ และละอองน้ำฝนมักจะทำให้ดอกขึ้นราไม่สามารถที่จะส่งจำหน่ายได้

ปุ๋ย ใช้สูตรปุ๋ย CMU-RPF ดังนี้

                                              ถัง A                ถัง B

 โมโนแอมโมเนียมฟอสเฟต (12-60-0)                      8 กิโลกรัม                - 

แคลเซียมไนเตรท (15-0-0)                              -                 20 กิโลกร้ม

โปแตสเซียมไนเตรท (13-0-46)                        10 กิโลกรัม              10 กิโลกรัม

แม็กนีเซียมซัลเฟต                                  4 กิโลกรัม                - 

ยูนิเลท                                        1/2 กิโลกรัม              - 

โรคและศัตรูพืช

โรคโคนเน่า และตรงโคนต้นมีแผลแตกน้ำเมือกใส สาเหตุ เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย

แมลงศัตรูพืช เช่น เพลี้ยไฟ ไรแดง การป้องกันกำจัด ใช้สารเคมีประเภทดูดซึมฉีดพ่น

การเก็บเกี่ยว

ระยะเก็บเกี่ยว เก็บเกี่ยวเมื่อในช่อดอกมีดอกบาน และดอกตูมใกล้เคียงกันประมาณ 50 เปอร์เซ็นต์ก็สามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้

วิธีการเก็บเกี่ยว

1. ใช้กรรไกรตัดโคนก้านดอกในแต่ละช่อ

2. นำก้านดอกแต่ละดอกที่ตัดแช่น้ำทันที (ต้องเตรียมถังใส่น้ำเข้าแปลงทุกครั้งที่ตัดดอก)จะไม่ทำให้ก้านดอกเปราะหักง่าย

3. หลังจากนั้นนำแช่ถังน้ำที่เตรียมไว้มาทำการคัดเกรดและบรรจุในถุงพลาสติก

สภาพแวดล้อมขณะเก็บเกี่ยว (ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการเก็บเกี่ยว)

ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการเก็บเกี่ยว ส่วนใหญ่ คือ ช่วงเช้าของวันที่ส่งผลผลิตแต่ละครั้ง

การจัดการหลังการเก็บเกี่ยว

การแช่น้ำยา ใช้ 8 HQC 1 กรัม กรดอะซีติก 1 กรัม น้ำ 5 ลิตร

อุณหภูมิที่เหมาะสมต่อการเก็บรักษา โดยทั่วไปสะแตติส เพอริซิอายเก็บรักษาได้ทุกอุณหภูมิปกติ

ข้อแนะนำอื่นๆ สะแตติส เพอริซิอาย สามารถปลูกและขึ้นได้ทุกที่ ทุกสภาพแวดล้อม ทั้งฤดูหนาว ฝน และร้อน แต่ในฤดูฝนผลผลิตจะสูญเสียมาก ดังนั้นไม่ควรมีการส่งเสริมเกษตรกรผลิตปลูกในช่วงฤดูฝน ควรจะมีการปลูกผลผลิตในช่วงฤดูร้อน และหนาวเท่านั้น

 

เอกสารอ้างอิง :

มูลนิธิโครงการหลวงและสถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง(องค์การมหาชน). 2549. คู่มือการผลิตไม้ตัดดอกและไม้ตัดใบ. มูลนิธิโครงการหลวง. เชียงใหม่. 375 หน้า.