รายการแหล่งเรียนรู้ 4 รายการ
ประธานมูลนิธิโครงการหลวงมอบให้สถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง (องค์การมหาชน) ดำเนิน “โครงการพัฒนาพื้นที่สูงแบบโครงการหลวงปางยาง” ตามที่ผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน (นายปริญญา ปานทอง) ได้มีหนังสือที่ นน.0005/20111 ลงวันที่ 29 ธันวาคม พ.ศ.2549 ถึงประธานมูลนิธิโครงการหลวง เรื่อง ขอรับการสนับสนุนให้หมู่บ้านปางยางอยู่ในความสนับสนุนของมูลนิธิโครงการหลวง ขอรับการสนับสนุนด้านวิชาการ และการตลาด พื้นที่ดำเนินงาน 3 หมู่บ้าน คือ บ้านปางยาง หมู่ที่ 1 บ้านขุนกูน หมู่ที่ 2 และบ้านน้ำขว้าง หมูที่ 3 ตำบลภูคา อำเภอปัว จังหวัดน่าน โดยนำเอาองค์ความรู้ของโครงการหลวงที่ประสบผลสำเร็จแล้วมาปรับใช้ในการพัฒนาพื้นที่ โดยเริ่มดำเนินการตั้งแต่ปี 2551 เป็นต้นมา
พื้นที่ภูเขาและเทือกเขาที่มีความลาดชันมากกว่า 35 % มีความสูงระหว่าง 750-1,300 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง อุณหภูมิสูงสุด 32องศาเซลเซียส ต่ำสุด 12 องศาเซลเซียส อุณหภูมิเฉลี่ย 22 องศาเซลเซียส
“ถ้ายังทำอาชีพเดิม จะเอาเงินที่ไหนมาใช้จ่ายในบ้านและส่งลูกเล่าเรียน” ชุมชนบ้านปางมะกล้วย หมู่ที่ 2 ตำบลป่าแป๋ มีประชากร 358 ครัวเรือน 843 คน มีประวัติศาสตร์และความเป็นมาที่สำคัญ โดยในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงเสด็จ ณ ตำบลป่าแป๋ และทรงปลูก “ต้นไม้ของพ่อ” ชุมชนจึงมีศรัทธาและแรงบันดาลใจในการดูแลรักษาป่าไม้ให้อุดมสมบูรณ์ ชุมชนบ้านปางมะกล้วยมีวิถีชีวิตผูกพันกับอาชีพการเกษตร ปลูกชาเมี่ยง (ชาอัสสัม) เป็นพืชหลัก ทำการแปรรูปทำเมี่ยงหมัก ซึ่งสร้างรายได้สูงให้กับชุมชนในอดีต แต่ปัจจุบันแนวโน้มการบริโภคเมี่ยงลดลง ส่งผลให้ราคาชาเมี่ยงตกต่ำ เกษตรกรมีรายได้ไม่เพียงพอต่อรายจ่ายในครัวเรือน เกิดภาวะหนี้สิน ชาวบ้านบางส่วนจึงตัดสินใจตัดต้นชาเมี่ยงเพื่อปลูกพืชใหม่อื่น ๆ สร้างรายได้ทดแทน เป็นเหตุให้เกิดความขัดแย้งระหว่างคนในชุมชนที่ต้องการอนุรักษ์กับปลูกพืชชนิดใหม่ ส่วนชาวบ้านที่เข้าไปตัดต้นไม้ในป่าเมี่ยงในเขตอุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง อุทยานแห่งชาติสุเทพ-ปุย และเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าแม่เลา-แม่แสะ ถือเป็นการทำผิดกฎหมาย จึงเกิดความขัดแย้งระหว่างชุมชนกับเจ้าหน้าที่ของรัฐ
ชุมชนปรับเปลี่ยนสู่ระบบการผลิตที่ยั่งยืน จากไร่หมุนเวียนแบบดั้งเดิมมาเป็นระบบเกษตรที่สร้างมูลค่า เกษตรกรร้อยละ 76 มีรายได้ที่ยั่งยืนจากการปลูกกาแฟอราบิก้าใต้ร่มเงาไม้ป่า