องค์ความรู้เพื่อการพัฒนาพื้นที่สูงอย่างยั่งยืน - HKM

ผลงานวิจัย สื่อสารอย่างไร ให้เข้าใจ ใช้ได้จริง

การนำผลงานวิจัยไปใช้ประโยชน์บนพื้นที่สูง อาจดูเหมือนเรื่องท้าทาย แต่ทั้งนี้จากการรวบรวมประมวลข้อมูลกลุ่มเป้าหมายผู้ใช้ประโยชน์ พบว่า “องค์ความรู้ที่พร้อมใช้ เครื่องมือที่ใช่ สื่อที่เข้าใจง่าย และช่องทางที่เข้าถึงได้” จะช่วยให้เกษตรกรบนพื้นที่สูงสามารถเข้าถึงองค์ความรู้และนำไปใช้ประโยชน์ได้ตรงกับความต้องการ ทันสถานการณ์ และเหมาะสมกับบริบทพื้นที่ เกิดการขับเคลื่อนการนำผลงานวิจัยไปใช้ประโยชน์ได้อย่างกว้างขวาง

จากการศึกษารูปแบบการถ่ายทอดผลงานวิจัยให้เหมาะสมกับบริบทของพื้นที่และสอดคล้องกับความต้องการของผู้ใช้ประโยชน์ พบว่า การถ่ายทอดความรู้ในภาคสนามหรือแบบออฟไลน์ มีสัดส่วนที่กลุ่มเกษตรกรผู้ใช้ประโยชน์ให้ความสนใจสูงกว่ารูปแบบออนไลน์ ถึงร้อยละ 51-75 เนื่องจากได้เห็นตัวอย่างความสำเร็จที่เป็นรูปธรรม เช่น การมีแปลงสาธิต แหล่งเรียนรู้ในชุมชน ทำให้เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ภายในกลุ่มเกษตรกร การอบรมเชิงปฏิบัติการที่ได้ทดลองฝึกปฏิบัติจริง รวมทั้งมีพี่เลี้ยงหรือเจ้าหน้าที่คอยติดตาม

ให้คำแนะนำในแปลงเกษตรกรอย่างใกล้ชิด ตลอดจนการศึกษาดูงานนอกพื้นที่ซึ่งได้เห็นต้นแบบความสำเร็จ นำไปสู่การสร้างแรงบันดาลใจ และนำวิธีการต่างๆ มาปรับใช้ให้เหมาะสมกับบริบทของพื้นที่ อย่างไรก็ตามในปัจจุบันการสื่อสารหรือส่งต่อความรู้ในรูปแบบออนไลน์สำหรับเกษตรกรบนพื้นที่สูงในพื้นที่ที่มีสัญญานโทรศัพท์และสัญญาณอินเทอร์เน็ตเริ่มมีความสำคัญเพิ่มขึ้น คิดเป็นร้อยละ 25-49 เนื่องจากการเข้าถึง

องค์ความรู้มีความสะดวก รวดเร็ว เพียงปลายนิ้วสัมผัส โดยคลิปสั้นที่มีเนื้อหากระชับ อธิบายขั้นตอน และมีภาพประกอบให้สามารถทำตามได้ เกษตรกรให้ความสนใจสูงสุด ถึงร้อยละ 34 รองลงมาเป็นโปสเตอร์

แผ่นพับ และคู่มือ ตามลำดับ

หมายเหตุ :

  • กลุ่มพื้นที่ 1 หมายถึง กลุ่มบ้านที่พัฒนาแบบโครงการหลวงโดยสมบูรณ์
  • กลุ่มพื้นที่ 2 หมายถึง กลุ่มบ้านที่พัฒนาในบางกิจกรรม โดยร่วมกับบางหน่วยงานและภาคเอกชน
  • กลุ่มพื้นที่ 3 หมายถึง กลุ่มบ้านเครือข่ายการเรียนรู้

กล่าวโดยสรุป การแก้ไขปัญหาหรือการพัฒนาพื้นที่ด้วยองค์ความรู้จากงานวิจัย ควรดำเนินการการถ่ายทอดความรู้ควบคู่ทั้งแบบออฟไลน์ และแบบออนไลน์ โดยมีเป้าหมายคือการให้ความรู้ “ถึงมือ” เกษตรกรผู้ใช้ประโยชน์ อย่างครบถ้วน รวดเร็ว และทันกับสถานการณ์ที่เกษตรกรเผชิญจริงในพื้นที่ ซึ่งต้นแบบนี้สามารถต่อยอดใช้กับชุมชนอื่นๆ ได้ ไม่เพียงเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงวิจัย แต่ยังสร้าง “แรงบันดาลใจ” ให้เกิดการเรียนรู้ร่วมกันและพัฒนาไปสู่การแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน

 เขียน/ เรียบเรียงเรื่องโดย: สายทอง อินชัย ,จิราวรรณ ปันใจ และหัทยา พัฒนะพงศ์พันธุ์

ออกแบบและเผยแพร่สื่อออนไลน์โดย เนตรชนก สายคง สำนักยุทธศาสตร์และแผน