ระบบเกษตรผสมผสาน เพียงหนึ่งคนทำงาน หมุนเวียนปัจจัยใช้เวลาคุ้มค่า
“เกษตรผสมผสาน เป็นระบบการเกษตรที่มีการปลูกพืชและเลี้ยงสัตว์หลายชนิดในพื้นที่เดียวกัน โดยที่กิจกรรมแต่ละชนิดเกื้อกูลกันอย่างเป็นวงจร ก่อให้เกิดประโยชน์ และประสิทธิภาพสูงสุดต่อระบบฟาร์ม ประโยชน์ คือ ช่วยลดความเสี่ยงจากความแปรปรวนของสภาพอากาศ การเกิดโรคพืชและศัตรูพืชระบาด ลดความผันแปรของราคาผลผลิต ลดรายจ่ายภายในครัวเรือนและการพึ่งพาปัจจัยการผลิตจากภายนอก” (สำนักงานปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์)
นางอำภา นาเมือง เกษตรกรหญิงวัย 62 ปี ในพื้นที่โครงการพัฒนาพื้นที่สูงแบบโครงการหลวงปางหินฝน อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ มีแนวคิดที่จะปรับเปลี่ยนอาชีพจากการปลูกข้าวโพด 10 ไร่ มาเป็นเกษตรอินทรีย์ เพื่อลดการทำงานหนักปรับเวลางานเป็นช่วงเวลาแห่งการพักผ่อน ดูแลสุขภาพ และอยู่กับครอบครัว หันมาปลูกพืชผักอินทรีย์ควบคู่ไปกับการเลี้ยงหมูหลุมและทำสวนผลไม้เล็กๆ ใช้ประโยชน์จากของเหลือในการปลูกผักอินทรีย์และเลี้ยงหมูหลุม จนกลายเป็นระบบหมุนเวียนปัจจัยการผลิต ลดค่าอาหารหมูและได้วัสดุปลูกผักที่ดีจากคอกหมูเป็นวงจรการผลิตที่เกิดประโยชน์สูงสุด
- ใช้เศษพืชผักอินทรีย์เป็นส่วนประกอบหลักในสูตรอาหารหมู
- เพิ่มความสมบูรณ์ของดินให้พืชด้วยมูลและวัสดุรองก้นหลุมหมู
- ทำการผลิตภายใต้มาตรฐานอินทรีย์และมาตรฐานโครงการหลวง (RPF)