พันธุ์เจียบนพื้นที่สูง
เจีย (Chia Seeds) ชื่อวิทยาศาสตร์ Salvia hispanica L. ซึ่งอยู่ในวงศ์ Lamiaceae พืชกลุ่มเดียวกับกระเพรา โหรพา และแมงลัก เป็นพืชล้มลุกฤดูเดียว มีถิ่นกำเนิดอยู่ทวีปอเมริกาเหนือแทบประเทศเม็กซิโก - กัวเตมาลา เป็นต้น
ประเทศไทยมีการปลูกเจีย และมีการส่งออกเจียทั้งที่เป็นเมล็ดและส่วนผสมของผลิตภัณฑ์ต่างๆ ไปยังประเทศต่างๆ จำนวน 4 ประเทศ ได้แก่ สหรัฐอเมริกา เวียดนาม และฟิลิฟินส์ (www.volza.com/p/chia-seeds/export/export-from-thailand)
สถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง (องค์การมหาชน) มีการส่งเสริมการปลูกเจียตั้งแต่ปี 2560 ปัจจุบันมีพื้นที่ปลูก 75 ไร่ ผลผลิตประมาณ 6 ตัน เกษตรกรมีการปลูกเจียโดยใช้พันธุ์ที่นำเข้ามาโดยบริษัทที่มาส่งเสริมในช่วงแรกๆ เป็นเจียชนิดเจียเมล็ดดำ ดอกม่วง ผลผลิตโดยเฉลี่ยประมาณ 70 กิโลกรัม/ไร่ โดยทั่วไปเจียที่ปลูกในต่างประเทศ มีการรายงานว่าในประเทศจีนให้ผลผลิตเฉลี่ย 109 กก./ไร่ (Zhang et. al., 2023) และประเทศเยอรมันให้ผลผลิตเฉลี่ย 206 กก./ไร่ (Grimes et. al., 2018) เจียเป็นพืชผสมตัวเอง (self – pollination) เป็นพืชที่มีความหลากหลายของสีดอก จากการศึกษาพันธุ์เจียในประเทศเมกซิโกพบว่า เจียมีสีเมล็ดเพียง 2 สี ได้แก่สีดำ และสีขาว และสีของดอกพบมีความหลากหลายได้แก่ สีม่วง สีขาว สีชมพู สีชมพูอ่อน และสีแดง (Cahill and Provance, 2020)
สถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง ได้ทำการรวบรวมพันธุ์เจียที่มีการปลูกในประเทศไทยพบจำวน 3 สายพันธุ์ ได้แก่ 1) เจียเมล็ดสีขาว – ดอกสีขาว 2) เจียขาว – ดอกสีม่วง และ 3) เจียดำ – ดอกสีม่วง โดยพบความสูงลำต้น ระหว่าง 159.3 – 161.7 เซนติเมตร น้ำหนักเมล็ด พบระหว่าง 1.07 – 1.11 กรัม ผลผลิตระหว่าง 149.2 – 248.4 กิโลกรัมไร่ นอกจากนี้ได้วิเคราะห์ปริมาณธาตุอาหารที่มีประโยชน์ทางโภชนาการ คือ ธาตุเหล็ก และโปรตีน พบว่ามีประมาณระหว่าง 7.8 – 15.3 มิลลิกรัม/100 กรัม) และ 21.46 – 22.20 เปอร์เซ็นต์ ตามลำดับ ดังตารางแสดงลักษณะและปริมาณธาตุอาหารที่มีประโยชน์ทางโภชนาการ ของเจียแต่ละพันธุ์