องค์ความรู้เพื่อการพัฒนาพื้นที่สูงอย่างยั่งยืน - HKM

หนอนน้ำหมักชีวภาพ

สูตรทำหนอนน้ำหมักชีวภาพ


วัสดุ-อุปกรณ์ 

- ผลไม้สุก เช่น กล้วยน้ำหว้า มะละกอ ขนุนสุกรวมๆกันหรือเท่าที่หาได้ 2 อย่างขึ้นไป 6 กิโลกรัม

- น้ำตาลทรายแดง 2 กิโลกรัม

- น้ำเปล่า 20 ลิตร

- ถังหมักขนาด 30 ลิตรมีฝาปิด

วิธีการทำ

- หั่นผลไม้สุกทั้งเปลือกเป็นชิ้นเล็กๆ คนคลุกเคล้ากับน้ำตาลทรายแดงในถัง เติมน้ำเปล่าลงไป 20 ลิตรคนให้เข้ากันอีกรอบ ไม่ต้องปิดฝา ตั้งถังทิ้งไว้ใต้ต้นไม้หรือในที่ร่มอากาศถ่ายเทได้สะดวก 3 วัน

- หลังจากครบ 3 วันให้ปิดฝาให้สนิททิ้งไว้ 7 วัน

- หลังจากครบ 7 วันจะเริ่มมีตัวหนอนขึ้นแต่ตัวหนอนยังไม่โตเต็มที่ ให้ปิดฝาแบบหลวม ๆ แง้มฝาถังนิดหน่อยให้อากาศสามารถเข้าได้ ทิ้งไว้อีก 7 วัน

- หลังจากครบอีก 7 วัน จะได้ตัวหนอนน้ำหมักตัวอ้วน ๆ ขาว ๆ สามารถนำไปเลี้ยงไก่พื้นเมือง เลี้ยงเป็ด เลี้ยงกบ เลี้ยงปลาดุกได้ ตัวหนอนจะเพิ่มปริมาณขึ้นๆทุก 2-3 วัน เกษตรกรควรเลี้ยงหนอนน้ำหมักชีวภาพไว้อย่างน้อย 2 ถังเพื่อสลับถังกันเก็บตัวหนอน ซึ่งจากปริมาณวัตถุดิบที่ใช้หมักดังกล่าวถ้าหมัก 2 ถังจะได้ตัวหนอนทุก ๆ วันประมาณวันละ 1-2 กิโลกรัม

ข้อแนะนำ 

หนอนน้ำหมักจะเกิดขึ้นเองเรื่อยๆและอยู่ได้นานถึง 6 เดือน และเมื่อครบ 6 เดือนให้เติมเพิ่มผลไม้สุกลงไปในถัง 1 กิโลกรัม น้ำตาลทรายแดง 1 กิโลกรัมและน้ำเปล่าอีกประมาณ 5 ลิตร คนให้เข้ากันปิดฝาถังหลวม ๆ ทิ้งไว้ จะช่วยยืดอายุการผลิตตัวหนอนได้นานอีก 6 เดือน

วิธีการนำตัวหนอนน้ำหมักชีวภาพไปใช้

ประโยชน์ของหนอนน้ำหมักชีวภาพยังมีประโยชน์ต่อการเลี้ยงสัตว์เนื่องจากหนอนชนิดนี้มีโปรตีนสูง เป็นหนอนที่เกิดจากการหมักจุลินทรีย์ ช่วยให้สัตว์ที่เลี้ยงมีภูมิคุ้มกันโรค มีระบบขับถ่ายที่ดี เจริญเติบโตเร็ว หากนำไปเลี้ยงกุ้งก้ามแดงจะโตเร็ว มีสุขภาพดีอีกด้วยนอกจากนั้นประโยชน์อีกด้านหนึ่ง คือประโยชน์โดยตรงของน้ำหมักชีวภาพดังกล่าว ซึ่งเมื่อหมักครบ 1 เดือน เกษตรกรสามารถนำน้ำหมักไปใช้เป็นฮอร์โมนสำหรับเร่งการเจริญเติบโตของพืชผักได้ ช่วยให้ผักสวนครัวสวยงามต้นอวบใช้ปรับปรุงบำรุงดินได้ โดยใช้ 4 ช้อนแกงต่อน้ำ 20 ลิตร ฉีดพ่นที่ใบและลำต้น หรือรดลงดิน 10 วันต่อครั้ง

- หากเกษตรกรต้องการนำไปเลี้ยงไก่พื้นเมืองหรือเลี้ยงเป็ด ให้นำตัวหนอนสด ๆ 1 ส่วน ผสมกับรำอ่อน 1 ส่วน สามารถนำไปเลี้ยงเป็นอาหารมื้อหลักได้เลย

- หากเกษตรกรต้องการนำไปเลี้ยงปลาดุก สามารถนำไปเลี้ยงแบบสด ๆ โดยไม่ต้องผสมอะไร ให้นำไปหว่านในบ่อเลี้ยงปลาดุกทุกๆเช้า-เย็นได้เลย แต่สามารถเลี้ยงได้เฉพาะปลาดุกที่มีอายุตั้งแต่ 1 เดือนขึ้นไป

- หากเกษตรกรต้องการนำไปเลี้ยงกบ สามารถนำไปเลี้ยงแบบสด ๆ ได้โดยไม่ต้องผสมอะไร ทุก ๆ เช้า-เย็น แต่สามารถเลี้ยงได้เฉพาะกบที่มีอายุตั้งแต่ 1 เดือนขึ้นไป