องค์ความรู้เพื่อการพัฒนาพื้นที่สูงอย่างยั่งยืน - HKM

แครอท




ชื่อสามัญ (ไทย)

แครอท

ชื่อสามัญ (อังกฤษ Common name)

Carrot

ชื่อวิทยาศาสตร์ (Scientific name)

Daucus carota

Order (อันดับ)                                                 


family (วงศ์ / ตระกูล)

ตระกูลแครอท (Umbelliferae)

Genus (สกุล)

Daucus

Species

D.carota



ลักษณะทางพฤษศาสตร์ : [1]

ลักษณะทั่วไป แครอทอยู่ในวงศ์ Apiaceae (Umbelliferae) มีถิ่นกำเนิดอยู่แถบเอเชียกลางจนถึงทางตะวันออก ต่อมาได้เผยแพร่เข้าไปใน ยุโรป และประเทศจีน แครอทเป็นพืชสองฤดู โดยฤดูแรกเจริญทางต้น ใบ และราก ฤดูที่สองจะเจริญทางดอก และเมล็ด ลักษณะลำต้นเป็นแผ่นใบจะเจริญจากลำต้น เป็นกลุ่มมีก้านใบยาว เมื่อตัดหัวตามขวาง จะแสดงให้เห็นส่วนประกอบของหัวอย่างเด่นชัดสองส่วนคือ ส่วนของเนื้อ (Outer core) ประกอบด้วย เปลือกบาง (Periderm) และส่วนของเนื้อ (Cortex) ซึ่งประกอบด้วยท่ออาหารและเป็นแหล่งเก็บอาหารสำรอง ส่วนใหญ่อยู่ในรูปของน้ำตาลเป็นส่วนประกอบ 45 – 65 % ของหัว เนื้อสีขาว เหลือง ส้ม แดง ม่วงและดำ ส่วนของแกน (inner core) ประกอบด้วย ท่อน้ำ (xylem) และแกน (pith) แครอทสายพันธุ์ที่มีคุณภาพสูง จะมีแกนขนาดเล็ก และมีสีเดียวกับเนื้อหรือมีส่วนของเนื้อมากกว่าส่วนของแกน การปลูกในฤดูที่สองเพื่อผลิตเมล็ดพันธุ์ลำต้นจะยืดตัว สร้างก้านดอกยาว 2 – 4 ฟุต บนยอดมีช่อดอก ซึ่งช่อแรกจะเจริญจากส่วนกลางของลำต้นต่อจากนั้นช่ออื่น ๆ จะเจริญตาม การผสมเกสรจะเป็นแบบผสมข้าม ส่วนใหญ่จะมีแมลงเป็นตัวช่วยผสมเกสร

การใช้ประโยชน์และคุณค่าทางอาหาร แครอทเป็นพืชที่อุดมไปด้วยสาร Beta carotene โดยเฉพาะบริเวณส่วนของเปลือกแก่ซึ่งสามารถเปลี่ยนเป็นวิตามินเอสูง (11,000 IU) นอกจากนี้ยังมีวิตามินบี1 บี2 และวิตามินบี   วิตามินเอ ช่วยทำให้ร่างกายมีภูมิต่อต้านโรคหวัด ป้องกันโรคมะเร็ง ป้องกันอาการผิดปกติในกระดูก โรคผิวหนังและรักษาสายตา นิยมรับประทานสด ในสลัด หรือนำมาประกอบอาหารชนิดอื่น ๆ เช่น ผัด ต้มซุป ใส่แกงจืด ใช้ทำส้มตำแบบมะละกอ คั้นสดรับประทานเป็นน้ำเพื่อสุขภาพ และช่วยเพิ่มสีสรรในจานอาหาร

สภาพแวดล้อมที่เหมาะสม :  [1]

แครอทเจริญได้ดีในเขตหนาว โดยทั่วไปอุณหภูมิที่เหมาะสำหรับการเจริญเติบโตอยู่ระหว่าง 25 – 28 องศาเซลเซียส หากอุณหภูมิสูงกว่า 28 องศาเซลเซียส จะทำให้การเจริญทางใบลดลง สำหรับอุณหภูมิที่เหมาะสมต่อการเจริญของหัวอยู่ระหว่าง 18 – 21 องศาเซลเซียส หากมีความแตกต่างของอุณหภูมิระหว่างผิวดินและระดับดินที่ลึกลงไป 10 – 15 เซนติเมตร มาก จะทำให้รูปทรงของหัวไม่สม่ำเสมอ  แครอทเป็นพืชที่ต้องการแสงมาก โดยเฉลี่ยประมาณ 9 – 14 ชั่วโมง/วัน แครอทเจริญได้ดีในดินละเอียด และร่วนซุย หน้าดินลึก มีอินทรีย์วัตถุสูง ระบายน้ำได้ดี ความเป็นกรด-ด่างของดิน 6.5 – 7.5 การปลูกในดินเหนียว หรือโครงสร้างดินแข็งจะทำให้หัวแตก มีรูปทรงผิดปกติ หากแปลงปลูกมีความชื้นสูง หัวจะมีแผลสีดำเน่า


การปลูกและการปฏิบัติดูแลรักษาระยะต่างๆของการเจริญเติบโต : [1]


การเตรียมดิน ขุดดินตากแดด และโรยปูนขาวอัตรา 0 – 100 กรัม/ตร.ม. ไว้อย่างน้อย 14 วัน กำจัดวัชพืช ขึ้นแปลงกว้าง 1 ม.

การปลูก

1. ก่อนปลูกใส่ปุ๋ยสูตร 12 – 24 –12 อัตรา 20 – 30 กรัม/ตร.ม. ลงในดิน ปรับหน้าแปลงให้เรียบ

2. ขีดร่องลึก 1 ซม. ขวางแปลงห่างกันร่องละ 15 ซม.

3. หยอดเมล็ดที่ละเมล็ดระยะห่าง 1 ซม. กลบเมล็ดแล้วรดน้ำให้ชุ่ม

4. การถอนแยก

ครั้งที่ 1 หลังหยอดเมล็ด 15 – 20 วัน (มีใบจริง 3 – 5 ใบ) เหลือระยะปลูก 3 ซม.

ครั้งที่ 2 หลังหยอดเมล็ด 30 – 35 วัน (มีใบจริง 8 – 9 ใบ) เหลือระยะปลูก 5 – 8 ซม.

ข้อควรระวัง ช่วงแรกระวังมดคาบเมล็ดหรือแมลงกัดกินเมล็ด


การให้น้ำ หลังปลูกรดน้ำให้ชุ่มและให้น้ำทุกวันสม่ำเสมอ แต่อย่าให้น้ำขัง หัวจะเน่า

การให้ปุ๋ย

1. หลังถอนแยกครั้งที่ 1 ใส่ปุ๋ย 15 – 15 – 15 อัตรา 30 – 50 กรัม/ตร.ม. พร้อมกำจัดวัชพืช

2. หลังการใส่ปุ๋ยครั้งแรก 15 – 20 วัน ใส่ปุ๋ยครั้งที่ 2 ใช้สูตร 13 – 13 – 21 โรยในร่องลึก 2 – 3 ซม. ระหว่างแถวปลูก

              

การเก็บเกี่ยวและการจัดการหลังการเก็บเกี่ยว : [2]

ช่วงเก็บเกี่ยว เก็บเกี่ยวเมื่ออายุ 100 – 130 วัน

การเก็บเกี่ยว

1.      เก็บเกี่ยวโดยการขุด เมื่ออายุและขนาดเหมาะสมต่อการนำไปบริโภค

2.      ตัดใบให้เหลือก้านใบยาว 3 เซนติเมตร

3.      ล้างรากให้สะอาด แล้วผึ่งให้แห้ง ระวังอย่าให้ผิวถลอกบอบช้ำ

4.      จัดชั้นคุณภาพและคัดรากที่มีตำหนิ หรือรูปร่างผิดปกติทิ้ง

5.      บรรจุตะกร้าพลาสติกที่กรุด้วยกระดาษทั้งตะกร้า

6.      ขนส่งโดยรถธรรมดาหรือรถห้องเย็น


ข้อกำหนดเรื่องคุณภาพ คุณภาพขั้นต่ำ เป็นแครอทที่สมบูรณ์ทั้งรากและมีก้านใบติดมาตามที่กำหนด มีรูปร่าง ลักษณะและสีตรงตามพันธุ์ ไม่แก่เกินไปจนแกนกลางแยกจากเนื้อ ผิวเรียบ ไม่มีสีเขียวบริเวณไหล่ สด สะอาด ปลอดภัยจากสารเคมี

 

การจัดชั้นคุณภาพ

ชั้นหนึ่ง

1.      เส้นผ่าศูนย์กลางบริเวณไหล่มีขนาดตั้งแต่ 4 – 4.5 เซนติเมตร ยาว 15 เซนติเมตรขึ้นไป

2.      ไม่แตกแขนง ไม่มีตำหนิ

3.      มีคุณภาพอย่างน้อยตามคุณภาพขั้นต่ำ

ชั้นสอง

1.      เส้นผ่าศูนย์กลางบริเวณไหล่มีขนาด 3 – 4 เซนติเมตร ยาว 15 เซนติเมตร

2.       ไม่แตกแขนง ไม่มีตำหนิ

3.      มีคุณภาพอย่างน้อยตามคุณภาพขั้นต่ำ

ชั้น U

1.      เส้นผ่าศูนย์กลางบริเวณไหล่มีขนาดตั้งแต่ 2.5 – 3 เซนติเมตร ยาว 15 เซนติเมตรขึ้นไป

2.      มีคุณภาพอย่างน้อยตามคุณภาพขั้นต่ำ



ข้อกำหนดในการจัดเรียง แครอทในภาชนะบรรจุเดียวกันต้องเป็นพันธุ์เดียวกัน เป็นชั้นคุณภาพเดียวกันและมีคุณภาพสม่ำเสมอกัน

การเตรียมสู่ตลาด

1.      ตัดแต่งก้านใบออกเหลือประมาณ 2.5 – 4 เซนติเมตร ตัดปลายรากออก

2.      บรรจุในถุงพลาสติกเจาะรู


การเก็บรักษา อุณหภูมิ 0 องศาเซลเซียส ความชื้นสัมพัทธ์ 98 - 100 เปอร์เซ็นต์ สามารถเก็บรักษาได้นาน 4 – 5 เดือน


ช่วงเวลาที่มีผลผลิต : [1]


ม.ค.

ก.พ.

มี.ค.

เม.ย.

พ.ค.

มิ.ย.

ก.ค.

ส.ค.

ก.ย.

ต.ค.

พ.ย.

ธ.ค.

















มีผลผลิต


โรคและศัตรูพืช : ข้อมูลมีในเว็บ HKM


เอกสารอ้างอิง

[1] เว็บไซต์องค์ความรู้เพื่อการพัฒนาพื้นที่สูง URL : http://mis.hrdi.or.th/inforcenter/xml_km/default.aspx


[2] ตุลาคม 2545.คู่มือการจัดชั้นคุณภาพผัก.กองพัฒนาเกษตรที่สูง สำนักงานปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์