กัญชง (Hemp).....ทำไมต้องปลูกที่ 120 วัน?
การส่งเสริมให้กัญชงเป็นพืชเศรษกิจของประเทศได้ ต้องมุ่งเน้นใช้ประโยชน์ในเชิงอุตสาหกรรม และใช้ประโยชน์จากส่วนต่าง ๆ ของกัญชงมากขึ้น การปลูกกัญชงแบบเดิมที่อายุ 90 วัน และใช้ประโยชน์จากเส้นใยเพียงอย่างเดียวนั้น เมื่อเข้าสู่ภาคอุตสาหกรรม จะไม่สามารถแข่งขันกับตลาดต่างประเทศได้ ดังนั้นเพื่อเพิ่มโอกาสทางการตลาดให้สามารถแข่งขันกับตลาดต่างประเทศได้ และเกิดการใช้ประโยชน์จากทุกส่วนของกัญชง โดยปลูกกัญชงที่อายุ 120 วัน จะสามารถใช้ประโยชน์จากเส้นใย แกน ใบ และยอดได้ ทำให้การส่งเสริมการปลูกกัญชงสามารถสร้างอาชีพ และโอกาสทางการตลาดให้กับเกษตรกรในหลายพื้นที่ได้มากยิ่งขึ้น
การปลูกกัญชงที่อายุ 120 วัน
พันธุ์กัญชง: พันธุ์ RPF1 RPF2 RPF3 RPF4 มีเปอร์เซ็นต์เส้นใย 12.9-14.7% มี THC 0.072-0.27% มี CBD 0.594-1.10%
การปลูก: การปลูกเช่นเดียวกับการปลูกเพื่อใช้ประโยชน์จากเส้นใย โดยปลูกเป็นแถว ระยะห่างระหว่างแถว 20-25 เซนติเมตร
การใช้ประโยชน์
เปลือกกัญชง นอกจากการใช้ประโยชน์ตามวิถีชีวิตของชาวเขาเผ่าม้งแล้ว เปลือกแห้งยังสามารถนำไปแปรรูปในเชิงอุตสาหกรรมเพื่อผลิตเป็นเส้นใยสำหรับใช้ในอุตสาหกรรมสิ่งทอ ซึ่งเส้นใยกัญชงเป็นเส้นใยที่ยาว และมีความแข็งแรง รวมถึงมีคุณสมบัติพิเศษมากมาย เช่น ป้องกันเชื้อราแบคทีเรีย ป้องกันรังสียูวี ระบายอากาศได้ดี จึงเหมาะสมจะเป็นวัตถุดิบชนิดใหม่ในอุตสาหกรรมสิ่งทอ ซึ่งอุตสาหกรรมสิ่งทอนั้นจัดเป็น 2nd wave S-Curve เป็นกลุ่มอุตสาหกรรมที่ต้องการปฏิรูปใหม่ในการใช้เทคโนโลยี นวัตกรรมและวัสดุใหม่ๆในการรองรับการเปลี่ยนแปลง และพัฒนาไปเป็นกลุ่มเป้าหมายอุตสาหกรรมใหม่ (New S-Curve) ดังนั้นจึงเป็นโอกาสที่ดี ที่จะใช้เส้นใยกัญชงเป็นวัตถุดิบใหม่ๆ ในอุตสาหกรรมสิ่งทอของไทย
แกนกัญชง สามารถนำมาเป็นวัตถุดิบและส่วนประกอบในการผลิตวัสดุก่อสร้าง และ Bioplastic ได้ หรือวัสดุทดแทนไม้ ซึ่งแกนกัญชงจะมีน้ำหนักเบากว่าไม้มาก เช่น
- เฮมพ์กรีต (Hempcrete) มีค่ากำลังต้านทานแรงอัดเพิ่มขึ้น 44% จากคอนกรีตควบคุม
- เฮมพ์บล็อก (Hemp blocks) มีความต้านแรงอัดได้สูงกว่าที่ มอก .58-2530 (>2.5 MPS) และมีน้ำหนักที่เบากว่าบล็อกปกติ มากถึง 40%
- เฮมพ์บอร์ด (Hemp Board) มีน้ำหนักเบากว่า MDF ที่ความหนาเท่ากัน มากถึง 20%
- Bioplastic การใช้แกนกัญชงผสมเพื่อผลิตต้นแบบ Bioplastic นั้นมีค่าการดัดยืดหยุ่นและการดัดโค้งสูงสุดมากกว่าพอลิโพรไพลีนบริสุทธิ์
ใบและใบยอด สามารถนำไปสกัดสารสำคัญชนิดต่างๆ เช่น
- สาร Cannabidiol (CBD) และสารกลุ่ม Cannabinoids มีอีกหลายชนิด ได้แก่สาร Cannabichromene (CBC) มีฤทธิ์ต้านการอักเสบ ลดอาการปวด และมีฤทธิ์ต้านเชื้อจุลชีพและเชื้อรา สาร Cannabinol (CBN) เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ทางการแพทย์
- สารให้กลิ่นเทอร์พีน (Terpene) เป็นสารประกอบอะโรมาติก (Aromatic) เป็นน้ำมันหอมระเหยสกัดที่มีในกัญชา/กัญชง เป็นสารที่ทำให้มีกลิ่นเฉพาะตัว
- สารให้สี ฟลาโวนอยด์ (Flavonoid) อีกหลากหลายชนิด สามารถนำมาผสมในผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพได้ โดยเฉพาะอาหาร ซึ่งมีสรรพคุณเป็นประโยชน์ต่อสุขภาพ ประโยชน์ทางยา ป้องกันโรค รักษาโรค และชะลอความชรา มีคุณสมบัติเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ (antioxidant)
เขียน / เรียบเรียงเรื่องโดย: รัตญา ยานะพันธุ์ นักวิจัย