แฟลกซ์สีประดับ
ชื่อสามัญ New Zealand Flax
ชื่อวิทยาศาสตร์ Phormium tenax
ชื่อวงศ์ Phormiaceae
Genus Phormium (FOR-mee-um)
Species tenax (TEN-aks)
ถิ่นกำเนิด Origin : New Zealand แฟลกซ์สีประดับ เป็นพืชที่นิยมใช้จัดสวนหรือภูมิทัศน์อย่างมาก เนื่องจากมีความโดดเด่นในเรื่องของสีสันและรูปทรง และยังเป็นพืชที่มีการรักษาอย่างง่ายมีความทนทานต่อสภาพแวดล้อมต่างๆที่เปลี่ยนแปลง
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์
เป็นพืชข้ามปี (Evergreen perennial)
ความสูง มีความสูง 10-12 ฟุต (3-3.6 เมตร)
ขนาดทรงพุ่ม มีความกว้าง 4-6 ฟุต (1.2-1.8 เมตร)
ลักษณะใบ
• ใบมีความยาวลักษณะคล้ายหอก ปลายใบแหลม ซึ่งเป็นลักษณะของพืชใบเลี้ยงเดี่ยว ใบมีความเรียบมัน
• สีของใบ มีหลายสีขึ้นอยู่กับชนิดของพันธุ์แฟลกซ์สี ซึ่งสีของใบจะมีสีเหลือง สีแดง สีชมพู สีครีม สีม่วงและสีเขียว
ลักษณะต้น
• แฟลกซ์สีมีลักษณะการเจริญเป็นแบบกอ มีลักษณะลำต้นใต้ดินที่เรียกว่า rhizomes tuber, corm, หรือ bulbs (ตามลักษณะการจำแนก) http://davesgarden.com
ลักษณะเมล็ด
• เมล็ดจะมีถุงหุ้มเมล็ด (Bag seedheads) อยู่ภายในฝักเมื่อฝักแห้งจะแตกแล้วเมล็ดที่อยู่ภายในจะปลิวกระจายโดยลม เพื่อการแพร่พันธุ์
การขยายพันธุ์ แฟลกซ์สีสามารถขยายพันธุ์ได้หลายวิธีคือ
1. ขยายพันธุ์โดยเมล็ด (Seed)
โดยหยอดเมล็ดลงในถาดหลุมหรือกระถางในวัสดุเพาะกล้า โดยอุณหภูมิที่เหมาะสมสำหรับการงอกของเมล็ด คือ 18-20 องศาเซลเซียส การหว่านหรือหยอดเมล็ดควรมีความลึก วัสดุที่ใช้เพาะต้นกล้าควรมีการระบายน้ำที่ดีและควรใช้วัสดุเพาะกลบเมล็ดหลังจากหว่านหรือหยอด ช่วงเวลาที่เหมาะสมสำหรับการหว่านเมล็ด คือ ช่วงเดือนกุมภาพันธุ์-กรกฎาคม และใช้ระยะเวลาในการงอกประมาณ 1-6 เดือน
หลังจากเมล็ดงอกแล้วให้ย้ายต้นกล้าลงกระถางขนาด 7.5 เซนติเมตร (3 นิ้ว) จนต้นแฟลกซ์มีขนาดใหญ่พร้อมจะปลูกลงแปลงได้ก็ย้ายปลูกลงแปลงและดินปลูกควรมีความชื้น
2. ขยายพันธุ์โดยการแยกกอ (division)
- โดยลักษณะแฟลกซ์สีจะมีการเจริญเติบโตเป็นแบบกอ ซึ่งส่วนที่ใช้ขยายพันธุ์เป็นลักษณะของลำต้นใต้ดินที่มีการจำแนกเป็นแบบ rhizomes tuber, corm, หรือ bulbs (including of fasets) http://davesgarden.com ซึ่งการขยายพันธุ์โดยการแยกกอ คือ การขุดกอแฟลกซ์สีมาแล้วทำตามขั้นตอนดังนี้ คือ หลังจากขุดกอแฟลกซ์สีแล้วนำมาทำการล้างรากเพื่อเอาเศษวัสดุปลูกออกจากราก
- ทำการแยกกอ โดยการแยกแฟลกซ์สีออกเป็นต้น ซึ่งสามารถดึงออกเป็นต้นได้ หลังจากนั้นทำการตัดแต่งรากที่ยาวออกประมาณ 50 เปอร์เซ็นต์ และตัดใบออกให้เหลือความยาวจากโคนกาบใบประมาณ 20 เซนติเมตร เพื่อลดการคายน้ำของต้นแฟลกซ์
- นำต้นแฟลกซ์สีที่แยกกอแล้วแช่ในสารเคมีป้องกันกำจัดเชื้อรา เช่น เทอราคลอร์ แคงเกอร์-เอ็กซ์ หรือสารชีวภัณฑ์ที่ป้องกันกำจัดโรคพืชประมาณ 5 นาที แล้วผึ่งให้แห้ง
- หลังจากนั้นนำต้นแฟลกซ์ ย้ายลงกระถางปลูกโดยใช้วัสดุปลูกสำหรับไม้กระถาง ซึ่งมีคุณสมบัติระบายน้ำดีและนำไปเรียงไว้ภายในโรงเรือนหรือบริเวณที่ไม่ได้รับแสงแดดโดยตรงมากนัก
วัสดุปลูกไม้กระถาง มีส่วยผสมและอัตราส่วนดังนี้ คือ
1. ขุยมะพร้าว 4 ส่วน
2. เปลือกถั่วลิสง 3 ส่วน
3. แกลบดำ 2 ส่วน
4. ทรายหยาบ 1 ส่วน
5. ปุ๋ยหมัก
ความต้องการแสง
แฟลกซ์สีเป็นพืชที่มีความต้องการแสงแดดเต็มที่ คือ สามารถปลูกแฟลกซ์สีได้กลางแจ้งให้ได้รับแสงแดดโดยตรงได้ดี และแฟลกซ์สียังสามารถปลูกในที่มีแสงแดดรำไรได้
ความต้องการน้ำ
แฟลกซ์สีเป็นพืชที่มีความต้องการน้ำน้อยถึงปานกลางโดยเฉพาะดินควรมีความชุ่มชื้นอยู่สม่ำเสมอไม่ให้ดินแห้ง ถ้าดินแห้งจะมีผลกระทบต่อการเจริญเติบโตของแฟลกซ์สีได้