องค์ความรู้เพื่อการพัฒนาพื้นที่สูงอย่างยั่งยืน - HKM

คะน้ายอดดอยคำ

ชื่อวิทยาศาสตร์ Brassica oleraceaevar.alboglabra

ชื่อสามัญ Doi Kham Chinese Kale

ลักษณะทางพฤษศาสตร์ : [1]

ลักษณะทั่วไป คะน้ายอดหรือคะน้าก้าน จัดอยู่ในตระกูล Cruciferae มีแหล่งกำเนิดแถบเอเชียไมเนอร์ ลักษณะโดยทั่วไป ลำต้นและก้านใบ อวบ ใหญ่ มีข้อตามลำต้น ใบค่อนข้างแหลม เรียบ สีเขียมอมเทา จำนวนใบต่อต้นน้อยกว่าคะน้าทั่วไป และปล้องยาวกว่า มีน้ำหนักส่วนต้นและก้านมากกว่าใบ ตามักจะแตกออกเป็นยอดใหม่ หลังจากเก็บยอดแรกที่มีช่อดอกตูมติด

การใช้ประโยชน์และคุณค่าทางอาหาร นิยมนำมาผัด หรือเป็นเครื่องเคียงกับอาหารประเภทยำ คะน้าโดยทั่วไปมีแคลเซียม ฟอสฟอรัส และเบต้าแคโรทีนสูง ช่วยป้องกันโรคมะเร็ง นอกจากนั้นยังมีวิตามินซีสูงกว่าผักใบอื่นๆ โดยทั่วไป นับเป็นผักที่มีคุณค่ายิ่ง ช่วยบำรุงสายตา ผิวพรรณ ป้องกันหลอดเลือดหัวใจตีบและโรคกระดูกบาง

สภาพแวดล้อมที่เหมาะสม :  [1]

โดยทั่วไปอุณหภูมิที่เหมาะสมต่อการปลูกอยู่ระหว่าง 20 – 25 องศาเซลเซียส การปลูกในสภาพอากาศหนาวเย็นหรือมีอุณหภูมิต่ำกว่า 15 องศาเซลเซียส จะทำให้การเจริญเติบโตช้า ลำต้นและใบอวบใหญ่กว่าปกติ ข้อถี่ การปลูกในสภาพอากาศร้อนสูงกว่า 30 องศาเซลเซียส คุณภาพผลผลิตต่ำ เยื่อใยสูง เหนียว จำเป็นต้องให้น้ำมากกว่าปกติ สำหรับพื้นที่ที่มีความสูงจากระดับน้ำทะเลตั้งแต่ 300 – 800 เมตร สามารถปลูกได้คุณภาพดีในช่วงฤดูหนาวตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน - กุมภาพันธ์ ส่วนพื้นที่ที่มีความสูงจากระดับน้ำทะเล 1,000 เมตร ขึ้นไป สามารถปลูกได้ตลอดทั้งปี สำหรับดินปลูกควรร่วนซุย ดินร่วนปนทราย มีความอุดมสมบูรณ์สูง ก่อนปลูกควรใส่ปุ๋ยหมัก ปุ๋ยคอก การระบายน้ำดี   ค่าความเป็นกรด – ด่างดินควรอยู่ระหว่าง 5.5 – 6.5   หากพื้นที่ปลูกเป็นกรดควรปรับด้วยปูนขาวหรือโดโลไมด์  ดินปลูกควรมีความชื้นสูงประมาณ 80 % ดังนั้นต้องให้น้ำอย่างสม่ำเสมอและพอเพียง และได้รับแสงอย่างเต็มที่ หากขาดน้ำจะชะงักการเจริญเติบโต เส้นใยมาก รสชาติไม่อร่อย

การปลูกและการปฏิบัติดูแลรักษาระยะต่างๆของการเจริญเติบโต : [1]

การเตรียมกล้า มี 2 วิธี

  1. เพาะเมล็ดในกระบะที่มีส่วนผสมระหว่างทราย : ขุยมะพร้าว : หน้าดิน อัตราส่วน 2 : 1 : 1 ต้นกล้ามีอายุประมาณ 5 วัน ย้ายลงถาดหลุมที่ใช้วัสดุเพาะ
  2. หยอดเมล็ดลงในถาดหลุมเพาะกล้าโดยตรง หลังจากต้นกล้ามีอายุประมาณ 18 – 21 วัน หรือมีใบจริงอย่างน้อย 2 – 3 ใบ จึงทำการย้ายปลูก

การเตรียมดิน ขุดดินลึก 10 - 15 ม. ตากแดดทิ้งไว้ประมาณ 7 – 14 วัน โรยปูนขาวหรือโดโลไมท์อัตรา 0 – 100 กรัม/ตร.ม. ขึ้นแปลงกว้าง 1 – 1.2 ม.หรือตามสภาพพื้นที่ ใส่ปุ๋ยรองพื้นปุ๋ยคอก (มูลไก่) หรือปุ๋ยหมักอัตรา 3 กก./ตร.ม. และหว่านปุ๋ย 15 – 15 – 15 อัตรา 120 กรัม/ตร.ม. ผสมคลุกเคล้าให้เข้ากัน

การปลูก ย้ายปลูกเมื่อต้นกล้าอายุ 18 – 21 วัน ในกรณีที่ต้องการเก็บหน่อข้าง ฤดูร้อน (ไม่เกิน 28 องศาเซลเซียส) 30 x 30 ซม. ฤดูฝนและหนาว 30 x 40 ซม. เก็บเกี่ยวครั้งเดียวควรใช้ระยะปลูก 25 x 25 ซม.

การให้น้ำ ให้น้ำแบบสปริงเกอร์

การให้ปุ๋ย ในระยะแรกจึงต้องการปุ๋ยไนโตรเจน ค่อนข้างสูง

- ใส่ปุ๋ยครั้งแรก 7 วัน หลังปลูก ใส่ปุ๋ยสูตร 46 – 0 – 0 หรือ 21 – 0 – 0 อัตรา 120 กรัม/ตร.ม. ใส่บริเวณลำต้น

- ใส่ปุ๋ยครั้งที่ 2 หลังปลูก 14 วัน ใส่ปุ๋ยสูตร 46 – 0 – 0 ผสม 15 – 15 – 15 อัตรา 1 : 2 ผสมกัน ใช้อัตรา 120 กรัม/

ตร.ม.

- ใส่ปุ๋ยครั้งที่ 3 หลังย้ายปลูก 21 วัน ใช้ปุ๋ยสูตร 30 – 20 – 10 อัตรา 20 กรัม/20 ลิตร

การเก็บเกี่ยวและการจัดการหลังการเก็บเกี่ยว : [2]

ช่วงเก็บเกี่ยว เริ่มเก็บหลังจากย้ายปลูกประมาณ 45 – 50 วัน หรือช่อดอกตูม

การเก็บเกี่ยว

1. เก็บเกี่ยวโดยใช้มีดคมตัด แล้วทาปูนแดงบริเวณรอยตัด ตัดแต่งใบให้เหลือเฉพาะใบที่หุ้มส่วนของดอก 1 – 2 ใบ

2. คัดผลผลิตที่ไม่ได้ชั้นคุณภาพออก

3. ทำความสะอาดบริเวณที่เปื้อนดิน

4. จัดเรียงในภาชนะบรรจุให้พอดี ควรระวังการสูญเสียน้ำ

5. ลดอุณหภูมิลงเหลือ 2 – 3 องศาเซลเซียส และขนส่งด้วยรถห้องเย็นหรือใส่กล่องโฟม ที่มีน้ำแข็งหรือเจลไอซ์

ข้อกำหนดเรื่องคุณภาพ คุณภาพขั้นต่ำ เป็นคะน้ายอดดอยคำที่มีรูปร่างลักษณะและสีตรงตามพันธุ์ มีดอกซึ่งไม่บาน สีของดอกยังเขียว สีใบและสีก้านสม่ำเสมอ ไม่มีตำหนิใดๆ ก้านไม่กลวง สด สะอาด และปลอดภัยจากสารเคมี

 การจัดชั้นคุณภาพ

ชั้นหนึ่ง   1. ลำต้นตรง มีความยาวจากโคนต้นถึงปลายดอก 12 – 17 เซนติเมตร

       2. ลำต้นมีเส้นผ่าศูนย์กลาง 1.5 – 2.5 เซนติเมตรฃ

       3. มีต้นที่ไม่ได้ชั้นคุณภาพปะปนมาได้ไม่เกิน 5 เปอร์เซ็นต์ของจำนวนในภาชนะบรรจุ

       4. มีใบติดยอด 1 – 2 ใบ

       5. มีคุณภาพอย่างน้อยตามคุณภาพขั้นต่ำ

ชั้น U   1. ลำต้นโค้งงอได้เล็กน้อย มีความยาวจากโคนต้นถึงปลายดอก 12 – 17 เซนติเมตร

       2. ลำต้นมีเส้นผ่าศูนย์กลาง 1.0 – 1.5 เซนติเมตรฃ

       3. ก้านกลวงได้เล็กน้อย

       4. มีคุณภาพอย่างน้อยตามคุณภาพขั้นต่ำ

ข้อกำหนดในการจัดเรียง คะน้ายอดดอยคำในภาชนะบรรจุเดียวกันต้องเป็นพันธุ์เดียวกัน มีชั้นคุณภาพเดียวกันและมีคุณภาพสม่ำเสมอ

ช่วงเวลาที่มีผลผลิต : ม.ค. - ธ.ค.


เอกสารอ้างอิง :

[1] หนังสือเรื่องการปลูกผักบนพื้นที่สูง

[2] ตุลาคม 2545.คู่มือการจัดชั้นคุณภาพผัก.กองพัฒนาเกษตรที่สูง สำนักงานปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์