ถั่วลันเตา
ชื่อวิทยาศาสตร์ Pisum sativum
ชื่อสามัญ Garden Pea / Sweet Pea
ลักษณะทางพฤษศาสตร์ : [1]
ลักษณะทั่วไป ถั่วลันเตาจัดอยู่ในตระกูล Leguminosae มีถิ่นกำเนิดแถบประเทศเอธิโอเปีย ต่อมาแพร่กระจายปลูกในแถบเมดิเตอร์เรเนียนและเอเชีย และเขตอบอุ่นต่างๆ ของโลก ถั่วลันเตาเป็นพืชฤดูเดียว มีใบแบบสลับ ปลายใบเปลี่ยนเป็นมือเกาะ การเจริญเติบโตแบบพุ่มหรือขึ้นค้าง บางสายพันธุ์อาจมีเฉพาะใบบางพันธุ์อาจมีเฉพาะมือเกาะ ใบมีสีเขียวอ่อนถึงสีเขียวเข้ม ลำต้นเล็กเป็นเหลี่ยม รากเป็นระบบรากแก้ว ดอกเป็นแบบดอกสมบูรณ์เพศ ผสมตัวเอง สามารถแบ่งประเภทของถั่วลันเตาเป็น 2 ประเภท ได้แก่ ประเภทฝักเหนียวและแข็ง เมล็ดโต นิยมปลูกเพื่อรับประทานเมล็ด ส่วนอีกชนิดปลูกเพื่อรับประทานฝักสด โดยฝักจะมีขนาดใหญ่มีปีก ฝักแบน
การใช้ประโยชน์และคุณค่าทางอาหาร ถั่วลันเตาเป็นถั่วฝักแบน สีเขียวอ่อน มีเมล็ดเล็กๆ เรียงอยู่ภายใน มีแคลเซียมและฟอสฟอรัสมาก เหมาะอย่างยิ่งต่อการบำรุงกระดูกและฟัน เวลานำมาผัดจะมีรสหวานและกรอบ ควรผัดไฟแรงอย่างรวดเร็วจะทำให้คุณค่าวิตามินยังคงอยู่ หรือนำไปลวกรับประทานได้อร่อยเช่นกัน นอกจากนี้เราสามารถนำส่วนของยอดต้นถั่วลันเตาพันธุ์รับประทานยอด ซึ่งมีลักษณะอวบและรสชาติหวาน นิยมนำมาผัดน้ำมันไฟแรงอย่างรวดเร็ว หรือต้มจืดกับหมูสับ
สภาพแวดล้อมที่เหมาะสม : [1]
ดินที่เหมาะสมสำหรับการปลูกถั่วลันเตา ควรมีลักษณะร่วนซุย ระบายน้ำได้ดี มีความอุดมสมบูรณ์สูง หน้าดินลึก และควรมี pH อยู่ระหว่าง 5.5 – 6.5 อุณหภูมิที่เหมาะสมสำหรับการเจริญเติบโตอยู่ระหว่าง 13 – 18 องศาเซลเซียส หากอุณหภูมิต่ำกว่า 4 องศาเซลเซียส หรือสูงกว่า 29 องศาเซลเซียส จะทำให้การเจริญเติบโตชะงัก และในกรณีที่อุณหภูมิสูงกว่า 30 องศาเซลเซียส ดอกและฝักร่วง ไม่ควรปลูกในสภาพอากาศเย็นมีน้ำค้างแข็ง โดยเฉพาะในระยะที่ดอกบานและเริ่มติดฝัก และควรได้รับแสงตลอดทั้งวัน
การปลูกและการปฏิบัติดูแลรักษาระยะต่างๆของการเจริญเติบโต : [1]
การเตรียมดิน ขุดแปลงตากดินไว้ 2 สัปดาห์ ใส่ปูนขาวตามคำแนะนำจากการวิเคราะห์ดินอัตรา 0 – 100 กรัม/ตร.ม. ทิ้งไว้ 10 วัน ก่อนปลูกคลุกปุ๋ย 0 – 4 – 0 อัตรา 40 กรัม/ตร.ม. กับ 12 – 24 – 12 อัตรา 25 – 30 กรัม/ตร.ม. ลงในดินแปลงกว้าง 1 ม. (แถวคู่)
การปลูก ใส่ปุ๋ยคอกอัตรา 1 กก./ตร.ม. รองพื้นก่อนปลูกและโรยตามร่องแถวปลูก พรวนดิน และหยอดเมล็ดโดยขีดร่องยาวตามแปลงลึก 5 ซม. หยอดเมล็ด 1 เมล็ด ห่างกัน 10 – 20 ซม. แถวห่าง 50 ซม. (ปลูกแถวคู่) กลบดินแล้วรดน้ำ ราดแปลงด้วยเซฟวิน 85 บนแปลงป้องกันมดกินหรือขนย้ายเมล็ด
ข้อควรระวัง
- หยอดเมล็ดลึกจะทำให้เน่า
- ควรคลุกเมล็ดด้วยไตรโคเดอร์มาหรือเอพรอน 35
การทำค้าง เมื่อปลูกได้ 10 วัน โดยปักไม้ค้างสูง 2 ม. ระยะห่าง 1 ม. ผูกเชือกช่วงละ 20 ซม. ของค้าง
การให้น้ำ ให้น้ำทุก 2 – 3 วัน โดยเฉพาะช่วงออกดอก หากขาดน้ำจะไม่ติดฝัก
การให้ปุ๋ย
- พืชอายุ 20 วัน ให้ปุ๋ย 46 – 0 – 0 อัตรา 30 กรัม/ตร.ม.
- พืชอายุ 30 วัน ให้ปุ๋ย 13 – 13 – 21 อัตรา 30 กรัม/ตร.ม. กลบดินบางๆ แล้วรดน้ำตาม ควรกำจัดวัชพืชพร้อมการให้ปุ๋ย
การเก็บเกี่ยวและการจัดการหลังการเก็บเกี่ยว : [2]
ช่วงเก็บเกี่ยว
ถั่วลันเตา : เริ่มเก็บเกี่ยวเมื่ออายุ 55 – 60 วัน เก็บฝักอ่อน เมล็ดเล็ก ฝักยังไม่โป่ง เนื่องจากเมล็ดแก่
ยอดถั่วลันเตา : เก็บเกี่ยวหลังจากย้ายหยอดเมล็ด 45 วัน
การเก็บเกี่ยว
ถั่วลันเตา :
1. เก็บเกี่ยวในระยะที่เหมาะสมตามตลาดต้องการ
2. ใช้มือปลิด ให้มีขั้วติดฝักมาด้วย
3. คัดฝักที่มีตำหนิจาก โรค และแมลงออก จัดชั้นคุณภาพ
4. บรรจุตะกร้าพลาสติกหรือกล่องกระดาษ
5. ลดอุณหภูมิลงเหลือ 1 – 2 องศาเซลเซียส
6. ขนส่งโดยรถห้องเย็น
ยอดถั่วลันเตา :
1. เก็บเกี่ยวโดยการใช้มีดหรือกรรไกรตัดยอด
2. ควรเก็บผลผลิตในช่วงเช้าหรือช่วงเย็น แดดไม่ร้อน
3. บรรจุในลังที่รองด้วยกระดาษทั้ง 4 ด้าน
4. น้ำหนักไม่เกิน 3 กิโลกรัม ต่อหนึ่งตะกร้าสีส้ม
ข้อกำหนดเรื่องคุณภาพ
ถั่วลันเตา : คุณภาพขั้นต่ำ มีรูปร่างลักษณะและสีตรงตามพันธุ์ ฝักตรง มีสีเขียวอ่อน สด เมล็ดเล็ก ไม่แก่ สะอาด และปลอดภัยจากสารเคมี
ยอดถั่วลันเตา : คุณภาพขั้นต่ำ เป็นยอดถั่วลันเตาที่มีลักษณะ รูปร่าง และสีตรงตามพันธุ์ ไม่มีรอยเน่า หรือช้ำ ไม่มีตำหนิจากโรคหรือแมลง สด สะอาด และปลอดภัยจากสารเคมี
การจัดชั้นคุณภาพ : ถั่วลันเตา
ชั้นหนึ่ง 1. ความยาวฝัก 8 เซนติเมตรขึ้นไป
2. ไม่มีตำหนิใดๆ
3. มีคุณภาพอย่างน้อยตามคุณภาพขั้นต่ำ
ชั้นสอง 1. ความยาวฝัก 6 - 8 เซนติเมตร
2. มีฝักโค้งหรือมีสีเหลืองปะปนมาได้ไม่เกิน 10 เปอร์เซ็นต์ ของจำนวนในภาชนะบรรจุ
3. มีตำหนิได้บ้างไม่เกิน 10 เปอร์เซ็นต์ ของจำนวนในภาชนะบรรจุ
4. มีเมล็ดใหญ่ทำให้ผักโป่งปะปนมาได้ไม่เกิน 5 เปอร์เซ็นต์ของจำนวนภาชนะบรรจุ
5. มีคุณภาพอย่างน้อยตามคุณภาพขั้นต่ำ
ชั้น U 1. ฝักมีขนาดเท่ากับชั้นสอง
2. มีรอยตำหนิได้ไม่เกิน 10 เปอร์เซ็นต์ ของจำนวนในภาชนะบรรจุ
3. มีเมล็ดใหญ่ทำให้ฝักโป่งไม่เกิน 10 เปอร์เซ็นต์ ของจำนวนในภาชนะบรรจุ
4. มีคุณภาพอย่างน้อยตามคุณภาพขั้นต่ำ
การจัดชั้นคุณภาพ : ยอดถั่วลันเตา (Sweet Pea Shoot)
ชั้นหนึ่ง 1. ความยาวของยอดไม่น้อยกว่า 15 เซนติเมตร
2. มีคุณภาพตามคุณภาพขั้นต่ำ
ข้อกำหนดในการจัดเรียง
ถั่วลันเตา : ถั่วลันเตาในภาชนะบรรจุเดียวกันต้องเป็นพันธุ์เดียวกัน เป็นชั้นคุณภาพเดียวกัน และมีคุณภาพสม่ำเสมอกัน
ยอดถั่วลันเตา : ยอดถั่วลันเตาในภาชนะบรรจุเดียวกันต้องเป็นพันธุ์เดียวกัน เป็นชั้นคุณภาพเดียวกัน และมีคุณภาพสม่ำเสมอกัน
การเตรียมสู่ตลาด
1. คัดฝักที่มีตำหนิและไม่ได้คุณภาพออก
2. บรรจุถุงพลาสติกเจาะรู
การเก็บรักษา อุณหภูมิ 0 องศาเซลเซียส ความชื้นสัมพัทธ์ 95 เปอร์เซ็นต์ขึ้นไป สามารถเก็บรักษาได้นาน 1 – 2 สัปดาห์
เอกสารอ้างอิง :
[1] หนังสือเรื่องการปลูกผักบนพื้นที่สูง
[2] ตุลาคม 2545.คู่มือการจัดชั้นคุณภาพผัก.กองพัฒนาเกษตรที่สูง สำนักงานปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์