องค์ความรู้เพื่อการพัฒนาพื้นที่สูงอย่างยั่งยืน - HKM

ไอเดียเกษตรกรยุคใหม่ “เพิ่มเงินให้ผลิตผลพื้นที่สูง”

เดิมทีไม่ได้อยากจะปลูกผักกินเองเพราะซื้อที่ตลาดง่ายกว่าเยอะ แต่ระยะหลังเห็นข่าวในโลกออนไลน์บ่อยๆว่า “สารเคมีเกษตรทำให้คนป่วยเป็นมะเร็งและเสียชีวิต” เลยต้องกลับมาคิดใหม่ และสุดท้ายก็จบตรงที่ปลูกผักกินเองบ้าง โดยเน้นชนิดที่ตัวเองใช้ทำอาหารบ่อย เช่น โหระพา มะนาว พริก ส่วนผักอื่นก็หาจากตลาดโดยเปลี่ยนมาเป็นลูกค้าประจำกับร้านที่มีตรารับประกันความปลอดภัยไม่ว่าจะเป็น เกษตรจีเอพี หรือเกษตรอินทรีย์ เพิ่มความเชื่อมั่นในการกินอาหารตามกระแส รักชีวิต รักษ์โลก

ช่วงนี้จึงสนใจศึกษาการเกษตรแบบประกันความปลอดภัยจากสารพิษ หลายคนฟังแล้วอาจทำหน้างง คำที่เข้าใจง่ายๆก็คือ “เกษตรปลอดภัย” นั่นเอง ไอเดียที่อยากแนะนำให้เพื่อนเกษตรกร (หัวใจสีเขียว) นำไปปฏิบัติ ได้แก่

1. สร้างจุดขาย ดี อร่อย

ด้วยการปลูกผักในรูปแบบตลาดนิยมตามแนวทางของมูลนิธิโครงการหลวง ซึ่งเน้นไปทางอาหารเพื่อสุขภาพทั้งผัก ผลไม้ และธัญพืช ผลพลอยได้จากงานวิจัยทำให้เกษตรกรบนดอยสูงบ้านเรามีพืชเศรษฐกิจทางเลือกหลายชนิด พร้อมชุดองค์ความรู้เพื่อยกระดับคุณภาพและเพิ่มปริมาณผลผลิต ลดการใช้พื้นที่ปลูกเหลือแค่ 1 ไร่ ก็ได้เงินเท่ากับ 10 ไร่ เมื่อเทียบกับอดีต เรื่องจริง บ่ได้โม้นะเจ้า

2. สร้างชีวิตใหม่ให้ดิน ปลูกอะไรก็ได้ผล

เริ่มจากการปรับโครงสร้างดินให้โปร่ง ร่วนซุย เนื้อดินมีช่องว่างเพื่อเก็บอากาศ เก็บธาตุอาหาร และอุ้มน้ำ ส่งผลให้ต้นพืชเติบโตเร็ว แตกรากดี มีอากาศหายใจ มีน้ำเพียงพอ ในขณะเดียวกันช่องว่างระหว่างเม็ดดินยังเป็นแหล่งอาศัยของจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ด้วย วิธีง่ายสุดและทำเองได้คือ การขึ้นแปลงและโรยปุ๋ยอินทรีย์ให้ทั่ว โดยสูตรที่ดีต้องมีส่วนผสมของมูลสัตว์ (แหล่งธาตุอาหาร) เศษพืชหรือเปลือกไข่ (แหล่งวิตามิน) และดินขุยไผ่ (แหล่งจุลินทรีย์ดี) อัตรา 2:1:1 ซึ่งอาจใส่ตัวช่วยให้ย่อยสลายเร็วขึ้น เช่น สารเร่ง พด. ไส้เดือนดินสีแดง (ขี้ตาแร่) หากมีทุนไม่มากก็ใส่ปุ๋ยรองก้นหลุมก่อนย้ายปลูก ซึ่งคล้ายกับว่าเป็นการทำคลังอาหารขนาดกว้างและลึกเท่ากับอาณาเขตรากพืช ย้ำว่าควรทำอย่างต่อเนื่องเพื่อสร้างดินที่ดีเหมาะแก่การเพาะปลูก

3. สร้างเกราะป้องกัน ด้วยวัคซีนพืช เปรียบเสมือนการฉีดวัคซีนป้องกัน Covid-2019 โดยหลังฉีดพ่นวัคซีนพืชจะช่วย 

  1) กระตุ้นให้พืชสร้างระบบภูมิคุ้มกันภายในตามธรรมชาติ เพื่อป้องกันกำจัดศัตรูพืชที่ต้นทาง เช่น เพิ่มความหนาแน่นและความแข็งแรงให้กับเส้นขน ทำให้เนื้อเยื่อพืชตายทันทีเฉพาะส่วนที่เสียหาย

  2) เคลือบต้นพืช เพื่อยับยั้งหรือควบคุมไม่ให้เชื้อสาเหตุโรคเจริญเติบโต และสร้างความเสียหาย

  3) ส่งเสริมการเจริญเติบโต เพิ่มประสิทธิภาพการสังเคราะห์แสง และการดูดซึมธาตุอาหารเข้าสู่ต้น

ตัวอย่างวัคซีนพืช เช่น ชีวภัณฑ์เกษตรป้องกันโรคพืชที่ผลิตจากแบคทีเรียบาซิลลัส สเตรปโตมัยซีส และราไตรโคเดอร์มา หรือที่เกษตรกรเรียกว่ายาเชื้อ ในทางตรงข้ามการพ่นสารเคมีส่วนใหญ่จะออกฤทธิ์กำจัดศัตรูพืชมากกว่าซึ่งเป็นการแก้ไขปัญหาที่ปลายทางของสาเหตุ อย่างไรก็ตามคุณสมบัติของวัคซีนพืชที่จำหน่ายตามท้องตลาดมีหลายแบบและราคาต่างกัน การเลือกซื้อจำเป็นต้องศึกษาแหล่งผลิตที่มีคุณภาพและผ่านการรับรองมาตรฐาน เฉพาะเกษตรกรโครงการหลวงและโครงการพัฒนาพื้นที่สูงแบบโครงการหลวงที่สนใจผลิตภัณฑ์จากงานวิจัย สามารถติดต่อข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่โรงชีวภัณฑ์ มูลนิธิโครงการหลวง เบอร์โทร 053-114218 หรือ ID Line : ppcrpf นอกจากนี้ยังมีสูตรน้ำหมักชีวภาพที่ผลิตจากไข่ไก่ 5 กิโลกรัม กากน้ำตาล 5 กิโลกรัม แป้งข้าวหมาก 1 ก้อน และยาคูลท์ 1 ขวด (https://www.hrdi.or.th/Articles/Detail/11)