องค์ความรู้เพื่อการพัฒนาพื้นที่สูงอย่างยั่งยืน - HKM

พริกหวาน

ชื่อวิทยาศาตร์   Capsicum anuum

ชื่อสามัญ   Sweet pepper /Bell Pepper

ลักษณะทางพฤษศาสตร์ : [1]

ลักษณะทั่วไป พริกหวานมีรูปร่างเป็นสี่เหลี่ยมถึงหกเหลี่ยมเนื้อหนามีหลายสีทั้งเขียว แดง เหลือง ส้ม และสีช็อกโกแล็ต รสชาติหวานไม่เผ็ด สามารถรับประทานสดได้ หรือนำมาผัดกับผักชนิดต่างๆ ให้สีสันน่ารับประทานยิ่งขึ้น มีคุณค่าทางวิตามิน A B1 B2 และ C มีสารแคบไซซินช่วยยับยั้งอนุมูลอิสระลดความเสี่ยงของการเกิดโรคหลอดเลือด โรคต้อกระจก และโรคมะเร็ง พริกหวานจัดอยู่ในตระกูล Solanaceae เช่นเดียวกับมะเขือ มะเขือเทศ ยาสูบ และ มันฝรั่ง เป็นพืชข้ามปี แต่นิยมปลูกฤดูเดียว ในระยะแรกพืชจะเจริญเป็นลำต้นเดียว หลังจากติดดอกแรกตรงยอดของลำต้นเดียว จะแตกกิ่งแขนงในแนวตั้งอีกสองกิ่ง เมื่อกิ่งแขนงมีดอกเจริญที่ปลายกิ่ง จะเกิดกิ่งแขนงเจริญเป็นสองกิ่งทำให้จำนวนกิ่งเพิ่มขึ้น ผลผลิตจะขึ้นอยู่กับจำนวนกิ่งและจำนวนผลต่อต้น โดยทั่วไปต้นจะสูง 0.5 - 1.5 เมตร ใบเป็นใบเดี่ยว เจริญสลับกัน ลักษณะดอกเดี่ยว สมบูรณ์เพศ สามารถเจริญได้ทั้งในสภาพช่วงแสงสั้นหรือช่วงแสงยาว เป็นพืชผสมตัวเอง แต่อาจมีโอกาสผสมข้ามโดยธรรมชาติสูง

การใช้ประโยชน์และคุณค่าทางอาหาร 

พริกหวานมีรูปทรงเป็นสี่เหลี่ยมถึงหกเหลี่ยม เนื้อหนา มีหลายสีทั้งเขียว แดง เหลือง ส้ม และสีช็อคโกแลค มีรสชาติหวาน ไม่เผ็ด สามารถรับประทานสดในสลัด หรือนำมาผัดกับชนิดต่างๆ ให้สีสันน่ารับประทาน มีคุณค่าทางวิตามิน A, B1, B2, และ C มีสารแคบไซซิน ช่วยยับยั้งอนุมูลอิสระ ลดความเสี่ยงของการโรคหลอดเลือด โรคต้อกระจก และโรคแมลง

สภาพแวดล้อมที่เหมาะสม :  [1]

สภาพที่มีความชื้นในอากาศต่ำ จะทำให้อัตราการติดผลลดลง อุณหภูมิที่เหมาะสมสำหรับการผสมเกสรอยู่ระหว่าง 20 - 25 องศาเซลเซียส มีความชื้นสัมพัทธ์สูง ในสภาพอุณหภูมิต่ำกว่า 18 องศาเซลเซียส หรือสูงกว่า 32 องศาเซลเซียส จะจำกัดการผสมเกสร อัตราการติดผลต่ำพริกหวานสามารถเจริญเติบโตได้ดีในดินร่วนปนทรายระบายน้ำได้ดี และมีค่าความเป็นกรดด่างอยู่ระหว่าง 6.0 - 6.8

 

การปลูกและการปฏิบัติดูแลรักษาระยะต่างๆของการเจริญเติบโต : [1]

การเตรียมกล้า ทำการยกแปลงขนาด 1 ม. ย่อยดินให้ละเอียด แปลงห่างกัน 70 ซม. ร่องลึกประมาณ 10 ซม. ทำขวางแปลงความห่างระหว่างร่อง 10 ซม. รองพื้นด้วยไตรโคเดอร์มาหว่านเมล็ดแล้วกลบดิน รดน้ำให้ชุ่ม หรือคลุมด้วยตาข่ายพลาสติก หลังจาก 7 – 10 วัน ย้ายกล้าลงในถาดหลุม

การเตรียมดิน ขุดดินทิ้งไว้ประมาณ 1 สัปดาห์ เก็บวัชพืชออกให้หมด ย่อยดินแล้วใส่ปูนขาวคลุกเคล้าร่วมกับปุ๋ยคอก และปุ๋ยสูตร 0 – 4 – 0 ผสมคลุกเคล้าให้เข้ากัน ควรใส่โดโลไมด์ อัตรา 100 – 150 กรัม/ตร.ม.

การปลูก ทำแปลงกว้าง 1 ม. เว้นร่องน้ำ 70 ซม. ระยะห่างระหว่างหลุม 40 – 50 ซม. เวลาปลูกรองพื้นด้วยปุ๋ยสูตร 15 – 15 – 15 ผสมคลุกเคล้ากัน แล้วย้ายกล้ามาปลูกกลบดินรดน้ำให้ชุ่มพอสมควร

การให้น้ำและการให้ปุ๋ย

ควรให้ปุ๋ยพร้อมน้ำระบบ Fertigation ในอัตราดังนี้

ระยะที่ 1    ปุ๋ย 46 – 0 – 0     1    ส่วนน้ำหนัก

         ปุ๋ย 20 – 20 – 20  1.2 ส่วนน้ำหนัก

         หรือ ปุ๋ย 20 – 10 – 30 หรือ ปุ๋ยสูตรใกล้เคียง อัตรา 1 – 3 กรัม/ตร.ม./วัน หรือ สูตรใกล้เคียง อัตราใช้ 0.25 – 1 กรัม/ตร.ม./วัน

ระยะที่ 2    ปุ๋ย 46 – 0 – 0     1    ส่วนน้ำหนัก

         ปุ๋ย 20 – 20 – 20  1.2 ส่วนน้ำหนัก

ระยะที่ 3    ปุ๋ย 0 – 0 – 51     1    ส่วนน้ำหนัก

         ปุ๋ย 20 – 10 – 30  5    ส่วนน้ำหนัก

         หรือ ปุ๋ย 20 – 10 – 30 หรือปุ๋ยสูตรใกล้เคียง อัตรา 3 กรัม/ตร.ม./วัน หรือมากกว่า

การเก็บเกี่ยวและการจัดการหลังการเก็บเกี่ยว : [2]

ช่วงเก็บเกี่ยว พันธุ์สีแดง เหลือง หรือสีอื่นๆ เก็บเกี่ยวเมื่อผลมีสี 80 เปอร์เซ็นต์ขึ้นไป พันธุ์สีเขียวเก็บเกี่ยวเมื่อผลมีผิวเรียบและแห้ง

การเก็บเกี่ยว

1. เก็บเกี่ยวในระยะความแก่ที่ถูกต้อง (สีผิว ขนาดสม่ำเสมอ ผิวเรียบมัน)

2. เก็บเกี่ยวโดยใช้กรรไกรเท่านั้น ทารอยตัดด้วยปูนแดง

3. จัดวางเรียงเป็นชั้นๆ โดยมีกระดาษสีขาวหรือฟองน้ำกั้นในแต่ละชั้น

4. ระวังขั้วผลแทงผลอื่นเสียหายขณะบรรจุ

5. ขนส่งโดยรถห้องเย็นที่อุณหภูมิ 10 องศาเซลเซียส หรือขนส่งโดยรถธรรมดา

6. หลีกเลี่ยงการขนส่งรวมกับผลผลิตที่สังเคราะห์เอทธิลีนสูง เช่น แอปเปิล และสาลี่

ข้อกำหนดเรื่องคุณภาพ คุณภาพขั้นต่ำ เป็นพริกหวานที่สมบูรณ์ มีก้าน มีรูปร่างลักษณะและสีตรงตามพันธุ์ ไม่มีตำหนิจากรอยช้ำ โรค และแมลง สด สะอาด ปลอดภัยจากสารเคมี

การจัดชั้นคุณภาพ

 ชั้นหนึ่ง 1. ผลมีน้ำหนัก 200 กรัมขึ้นไป

      2. มีสีตรงตามพันธุ์ ผิวเรียบเป็นมัน สีสม่ำเสมอ เป็นสีเดียวกันทั้งผล

      3. มีคุณภาพอย่างน้อยตามคุณภาพขั้นต่ำ

ชั้นสอง  1. ผลมีน้ำหนัก 120 - 200 กรัมขึ้นไป

      2. มีสีตรงตามพันธุ์ ผิวเรียบเป็นมัน ถ้าเป็นสีแดง เหลือง มีสีเขียวปนได้ ไม่เกิน 5 เปอร์เซ็นต์ ของพื้นที่ผิว

      3. มีคุณภาพอย่างน้อยตามคุณภาพขั้นต่ำ

ชั้น U   1. น้ำหนักของผลตั้งแต่ 70 – 120 กรัม

      2. มีสีตรงตามพันธุ์ ผิวเรียบเป็นมัน ถ้าเป็นสีแดง เหลือง มีสีเขียวปนได้ ไม่เกิน 10 เปอร์เซ็นต์ ของพื้นที่ผิว

      3. มีคุณภาพอย่างน้อยตามคุณภาพขั้นต่ำ

ข้อกำหนดในการจัดเรียง พริกหวานในภาชนะบรรจุเดียวกันต้องเป็นพันธุ์เดียวกัน เป็นชั้นคุณภาพเดียวกันและมีคุณภาพสม่ำเสมอกัน

การเตรียมสู่ตลาด บรรจุถุงพลาสติกเจาะรู หรือห่อด้วยพลาสติกโพลีไวนีลคลอไรด์ (PVC)

การเก็บรักษา อุณหภูมิ 7 – 10 องศาเซลเซียส ความชื้นสัมพัทธ์ 95 เปอร์เซ็นต์สามารถเก็บรักษาได้นาน 2 – 3 สัปดาห์


เอกสารอ้างอิง :

[1] หนังสือเรื่องการปลูกผักบนพื้นที่สูง

[2] ตุลาคม 2545.คู่มือการจัดชั้นคุณภาพผัก.กองพัฒนาเกษตรที่สูง สำนักงานปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์